In time

หนังเรื่องนี้ตอนเข้าโรง ดูเหมือนจะชนกันหนังไทยเรื่องไหนจำไม่ได้ แต่สุดท้ายก็อดดูจนได้ เพราะดันไปดูหนังไทยเรื่องนั้นแทน วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะดู แล้วก็ดันดูแบบไม่ได้ตั้งใจ ฉะนั้นเรื่องโดยสรุปจึงต้องไปติดตามอ่านที่เวปอื่น แต่ส่วนตัวชอบเรื่องย่อของ http://www.siamzone.com/movie/m/6227/synopsis สรุปสั้นๆ ได้ใจความ


สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะรู้สึกเหมือนยังไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก อาจมีข้อบกพร่องในหลายๆ ส่วน และงงๆ นิดหน่อยว่าพวกที่รวยๆ เวลาเนียะ เขาทำมาหากินด้วยอะไรยังไงกัน
 แต่คิดว่าแนวคิดที่มาดูดีใช้ได้ เป็นการเล่นกับเวลา เสียดสีเรื่องชนชั้น โดยใช้แกนเรื่องแสนคลาสสิก สไตล์โรบินฮู้ด ผสมผสานกับที่พระเอกของเรื่องมีอดีตฝังใจเกี่ยวกับผู้เป็นพ่อ


ที่สะดุดตาสะดุดใจ เป็นการส่วนตัวคือนางเอก เธอไม่ใช่ดาราหน้าตาดีอะไรมากมายนัก แล้วกับผมทรงนี้ ยากนักที่จะมีใครทำแล้วโดน แต่เธอคนนี้ผมทรงนี้ และชุดกระโปรงสีดำตัวนี้ ดูดีมีเสน่ห์จริงๆ^^

กับ in time ไม่ขอวิจารณ์อะไรมากมายเพราะไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาดูมากนัก เอาเป็นว่าก็สนุกใช้ได้ ไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์อะไร ใช้ได้นะ^^

ปัญหาแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงสไตล์เกาหลีๆ-Brilliant Legacy – มรดกรัก ฉบับพันล้านวอน

ซีรีย์เกา่หลีสากลเรื่องแรกที่ช่อง 3 นำมาเสนอแก่เราๆท่านๆ 
Brilliant Legacy – มรดกรัก ฉบับพันล้านวอน
(อยากบอกว่าเก่าจังอ่ะ ^^)
ดูตอนสองตอนแรกไม่ค่อยตั้งใจดู ที่ดูเพราะชอบนางเอกคนนี้ และเคยคุ้นหน้าพระเอกคนนี้จากเกมโชว์
ซีรีย์เรื่องนี้ก็มีแก่นของเรื่องง่ายๆ สองแบบนำมาผูกกันคือ
เรื่องของนางเอก เป็นเรื่องราวของแม่และลูกเลี้ยงที่เหมือนจะอยู่ด้วยกันได้อย่างดีมาตลอดจนกระทั่งพ่อเสียชีวิต ความร้ายกาจของคุณแม่เลี้ยงก็แสดงออกมา
ในอีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของพระเอก ประมาณว่าลูกคนรวย คุณหนูไฮโซ ถูกเลี้ยงมาตามใจ บวกกับมีความหลังฝังใจเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่ทำให้พ่อของตัวเองเสียชีวิต

เนื้อหาทั้งสองส่วนผูกกันได้เนียนๆ แบบฟลุคๆ ในวันที่คุณย่าของพระเอกไม่รู้จะทำยังไงต่อไปกับธุรกิจและทายาทที่ไม่ได้เรื่องได้ราว แกก็ไปหาที่คลายเครียด ตามสไตล์แก คือการระลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่ลำบากขายของข้างถนน ด้วยการแต่งตัวซ่อมซ่อไปขายของเหมือนเมื่อครั้งอดีตที่ยังยากจน 
(ติสมาก) ทำให้เจอกับนางเอกที่มาขายของและนางเอกก็ได้ช่วยชีวิตคุณย่าไว้ เป็นเหตุให้คุณย่าประทับใจและอยากรับนางเอกมาดูแล อ้างว่าตอบแทนที่เคยช่วยเหลือกัน 
และจะแลกเปลี่ยนด้วยการหาน้องชาย (ที่คุณแม่เลี้ยงแอบเอาไปทิ้ง)  
เรื่องราวก็เลยเถิดจนกระทั่งกลายเป็นคิดจะยกมรดกให้ซะอย่างนั้น^^




เรื่องราวรักสี่เส้า ก็สไตล์เกาหลี๋เกาหลี พระรองผู้แสนดีและเป็นที่พึ่งได้เสมอ กับพระเอกปากร้ายและเข้าใจนางเอกผิดๆ เสมอ กับนางรองที่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาความรักของตัวเองเอาไว้ตามสถานการณ์ที่เธอจะทำได้ และแน่นอนว่าไม่ได้ร้ายแบบตบตีกันเยี่ยงละครไทย
สิ่งที่ประทับใจเป็นส่วนตัวกับซีรีย์เกาหลีคือ ความละเอียดอ่อนที่คู่รักพึงมีให้กันไม่ใช่แค่คำพูดแต่เป็นการกระทำด้วย อย่างเช่นพระเอกเรื่องนี้เมื่อเขาไม่มีกำแพงในใจกับนางเอกแล้วเขากลับจำอาหารที่เธอแพ้ได้โดยไม่รู้ตัว แอบเอามือบังน้ำที่จะหยดใส่ศีรษะเธอ หรือแม้แต่การกระทำที่พระรองทำให้ และที่มันดูน่ารักคือ เป็นการใส่ใจดูแลที่ไม่ได้ไปก้าวก่ายถึงความคิด และการตัดสินใจของนางเอก มันมีการให้เกียรติกันและกัน ซึ่งทำให้ทั้งพระรองและพระเอก เป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นจริงๆ^^

และท้ายที่สุด ปมทั้งหลายก็คลี่คลายในตอนจบ ทั้งความรัก ทั้งมรดก รวมไปถึงปมสำคัญที่ว่า พ่อนางเอกยังไม่ตาย!! คุณแม่เลี้ยงและนางรองเลยกลายเป็นคนผิดไปตามระเบียบ แต่ที่สวยงามกว่านั้นคือ ทั้งสองยอมรับในสิ่งเลวร้ายที่ตนเองทำลงไป เป็นเรื่องราวที่ในละครไทยมักไม่มีหรือมีน้อยมาก เพราะมักจะให้ตัวร้ายตายตอนจบไม่ก็ เป็นบ้าไปซะเฉยๆ ทั้งที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนั้นแค่แสดงให้เห็นว่ามีสำนึกบ้าง ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีงามของเยาวชนได้ดี...กว่าที่เป็นอยู่
สำหรับละครเรื่องนี้ ผู้ชมหลายๆคน อาจทนไม่ไหวในช่วงครึ่งแรก แต่อดทนดูไปเถอะคะ ครึ่งหลังสนุกจริงๆ นะ..จะ..บอกให้^^

ไปดูมาแว้ววว The Hunger Games


แอบคาดหวังหรือคาดเดาเนื้อเรื่องไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เดาไว้ แต่หนังก็ทำได้สนุกพอควร แต่อาจไม่เต็มอิ่มนัก แต่พอมารู้ว่า มันไม่ได้จบแค่ภาคเดียวก็เลยเข้าใจได้ว่า ทำไมเหมือนมันยังไม่เต็มที่เท่าที่ควร แต่สำหรับความเป็นภาคแรก ในความรู้สึกของเรา คิดว่าเ่ขาคัดเลือกตัวแสดงได้ดีนะ โดยเฉพาะนางเอกที่เป็นตัวเดินเรื่อง เธอไม่ได้สวยมากมายแต่ดูมีสเน์ห์บอกไม่ถูกแฮะ และหุ่นก็ดูบึกบึนดีสมกับบทบู๊ที่ต้องวิ่งไปวิ่งมาในป่าและปีนขึ้นปีนลงต้นไม้

เนื้อเรื่องของหนังที่ดูจะขัดใจเล็กๆ ตรงที่เืมื่อเปิดฉากเล่มเกมก็มีคนวิ่งเข้าใส่และฆ่ากันเลย ไม่เข้าใจว่าเด็กวัยรุ่นจะสามารถเห็นการฆ่า เป็นเรื่องง่ายดายเช่นนั้นเลยหรือ 
แคทนิส นางเอกของเรื่องไม่ใช่คนที่ถูกเลือก เธออาสามาแข่งแทนน้องสาวดังนั้นจุดมุ่งหมายการเอาชีวิตรอดของเธอจึงดูแตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่ชนะ แต่เป็นเพื่อรักษาสัญญากับน้องสาวด้วย
(ประเด็นของหนังดูเหมือนจะพยายามบอกเล่าเรื่องราวประมาณว่าแม้คนอื่นๆจะเห็นมันเป็นเกม แต่นี่คือเกมที่คนฆ่ากันจริงๆ ไม่ใช่เรื่องสนุก รึเปล่านะ?) การที่มีใครซักคนตาย ก็ส่งผลต่อผู้ดู หรือส่งผลทางการเมืองได้ มีการสอดแทรกเรื่องราวหรือตัวละคร หรือการบีบให้ผู้เล่นเป็นไปอย่างที่อยากให้เป็น มันเป็นเพียงมายาเหมือนเกมโชว์เกมหนึ่งเท่านั้น คำพูดหนึ่งที่พีต้าเอ่ยกับเคทนิสก่อนเข้าสู่การแข่งขันคือ เขาไม่ต้องการให้เกมนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียตัวตน 
 เป็นคำพูดที่น่าคิดนะ ในโลกวัตถุอย่างที่เราๆท่านๆอยู่กันทุกวันนี้เราสูญเสียตัวตนไปบ้างรึเปล่าเพียงเพื่อได้รับการนิยมชมชอบทางสังคมหรือเพียงเพื่อค่าตอบแทนบางอย่าง

สำหรับหนังเรื่องนี้ตอบได้ง่ายๆ ว่า ก็ควรจะติดตามรอตอนต่อไปนะ 
ตามเอาใจช่วยเคทนิส หญิงแกร่งของเรา^^..

ตามไปอ่านเนื้อหาแบบละเอียด  ชำแหละ The Hunger Games 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332566264&grpid=01&catid=01

ส่วนเราจะไปตามล่าหาหนังสือมาอ่านก่อนภาคสองจะมา อิอิ