Arang and the Magistrate เรื่องย่อ ตอนที่ 7



ผ้ายันต์ที่อึนโอพบถูกผูกไว้ตามต้นไม้ ในแต่ละทิศ ขาดแต่ตะวันออกเฉียงใต้
นางแม่มดรับรู้ได้ว่ามีบางคนเข้ามายุ่งกับผ้ายันต์ที่ติดไว้
บนสวรรค์ ลูกแก้ว ที่มหาเทพและยมราชกำลังจ้องมองอยู่ค่อยๆ เกิดรอยร้าวมาขึ้นทีละนิดๆ ในทุกๆครั้งที่ อึนโอดึงผ้ายันต์ออก
อึนโอพบผ้ายันต์ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดอยู่ที่ปลายกิ่งไม้ซึ่งยื่นออกไปที่ริมผา
ขุนนางสามคนเห็นเป็นโอกาสจะทำร้ายอึนโอ แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอะไร อึนโอคว้าผ้ายันต์และตกลงไปซะก่อน


บนสวรรค์ ลูกแก้วแตกออก
“ต้องอย่างนั้นสิ” ท่านยมราชเอ่ย
“ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึง” มหาเทพสำทับ “มูยองเจ้าลงไปดูหน่อยสิว่ามีร่องรอยอะไรอีกหรือไม่”  มหาเทพหันไปสั่งยมทูตมูยองก่อนจะหันไปพูดกับยมราช “มนุษย์ก็ไม่เลวนักจริงมั้ย” มหาเทพอมยิ้ม

อารังตามหาอึนโอไปถึงสุสานกระดูก นางพบกับมูยอง ยมทูตไม่ยอมพูดอะไรกับนาง
มูยองสัมผัสผ้ายันต์ “มูยอน..หรือว่านี่..เจ้า..” เขารำพึงกับกับตัวเอง

นางแม่มดโมโหมากเรื่องผ้ายันต์ นางยังไม่ทันได้กล่าวอะไร ชอยจูวาลรีบก้มลงขอโทษเรื่องอารังที่ยังไม่ตาย ทำให้นางรู้ว่าอารังกลับมามีชีวิตได้อีก

อารังเห็นร่างของอึนโอที่ด้านล่างของหน้าผานางพยายามไต่เชือกลงไปช่วย นางกลับตกลงไปด้วย เป็นจังหวะที่อึนโอได้สติคว้านางขึ้นมาได้ทั้งๆที่ตัวเองเจ็บ “นี่เจ้าจะช่วยข้าหรือจะมาทำให้ข้าตายกันแน่นะ”  
ทั้งสองไม่สามารถปีนกลับขึ้นไปได้อีก อึนโอเอ่ยว่า มีทางหนึ่งคือให้อารังโดดลงน้ำไปพอนางตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ ค่อยหาคนมาช่วย นางทำท่าจะกระโดดลงไปจริงๆ แต่อึนโอคว้าขาไว้ “เจ้าดูไม่รู้เหรอว่าพูดเล่นหรือพูดจริง”

ทางด้านขุนนางสามคน กลับจวนนายอำเภอ ด้วยความกังวลที่เห็นนายอำเภอตกลงไปที่หน้าผา “ข้ายังไม่ทันได้ผลักเขาจริงๆนะ”

ฝนตกลงมาอารังพบถ้ำที่ด้านล่างจึงพาอึนโอเข้าไปพัก อึนโอตัวสั่นอารังพยายามจะกอดเขาไว้ “ตัวเจ้าไม่มีไออุ่นเลยนะ”อึนโอเอ่ยอย่างเหนื่อยอ่อน
“คนที่ไหนกันจะตัวเย็นแบบนั้น”
จริงๆแล้วอึนโอเพียงพูดไปแบบนั้นเอง อารังลุกขึ้นเดินเข้าไปในถ้ำเผื่อว่าจะหาทางออกเจอ พลางบ่นไปเรื่องที่นางไม่มีไออุ่น “เป็นเพราะตาเฒ่านั่นส่งข้ามาแบบครึ่งๆกลางๆ “ ระหว่างที่นางหาทางออกนางพบกับวิญญาณตนหนึ่งปลอมตัวเป็นนักสมุนไพร อารังเข้าใจว่าเป็นคนจริงๆ จึงพามาหาอึนโอ แต่พอนางแต่ตัวเขา นางก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คน วิญญาณนั่นเถียงกับตัวเองเรื่องจะกินตับคน ทำท่าจะทำร้ายอารัง อึนโอพยายามลุกขึ้นช่วย
“เห็นมั้ยเจ้าขยับตัวทีไรเป็นมีเรื่องทุกที” อึนโอพูดกับอารังก่อนหันไปตวาดใส่วิญญาณ “เจ้าจะเอาตับนางไปก็ได้แต่ตับข้า..ไม่มีทางซะหรอก” แล้วอึนโอก็ซ้อมเจ้าผีกินตับ
เจ้าผีไม่ลดละ ลุกขึ้นทำร้ายอารัง จนรู้ว่านางไม่ใช่คนแต่ก็ไม่ใช่ผี “ไม่น่าเชื่อจะพบตับที่หายากแบบนี้” มันพูดด้วยความดีใจ ยมทูตมูยองโผล่มาช่วยไว้ได้ทัน เขาบอกอารังว่า นี่คือวิญญาณที่ถูกจองจำไว้นานจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร วิญญาณพวกนี้เพิ่งถูกปลดปล่อย และเมื่อลืมตัวตนมานาน มันกำลังจะกลายเป็นปีศาจ

โดลแซโวยวายกับขุนนางสามคน ให้ไปตามหาอึนโอ แต่ทั้งสามเห็นว่าฝนตกอยู่จึงนิ่งเฉย โดลแซจึงออกไปตามหาเพียงลำพังทั้งๆที่ฝนยังตกอยู่

บนสวรรค์ มูยองรายงานเรื่องวิญญาณที่ถูกปลดปล่อย เขาไม่คิดว่าจะมีพลังมากขนาดนี้ แต่มหาเทพยังไม่กังวลมากนัก “เรายังมีเด็กนั่นอยู่...”

อึนโอกับอารัง คุยกันภายในถ้ำ อึนโอบาดเจ็บและเหนือ่ยอ่อนมาก แตก็ยังมีกำลังพอจะพูดได้บ้าง เขาว่าก่อนอึ่นเขาต้องตามหาคนที่ฆ่าลีโซริมให้ได้ ส่วนอารังรู้สึกกังวลที่ยมทุตว่า เมื่อหลงลืมตัวเองไปนานๆ จะกลายเป็นปีศาจ นางกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นแบบนั้น ...ว่าแต่..ที่งานศพของลีโซริมคู่หมั้นของนางมามั้ยนะ..ข้าน่าจะไปพบหน้าเขาตั้งแต่ตอนนั้น...อารังพูดไปเรื่อยจนกระกระทั่งอึนโอหลับไป วันต่อมาทั้งคู่ออกมาจากถ้ำทางเดิม พบโดลแซมาช่วยพอดี โดลแซยังงอนๆ ไม่อยากช่วยอารังอยากจะช่วยแต่อึนโอ ในตอนที่อารังปีนขึ้นมาทีหลังเชือกขาดและนางก็ตกลงไปอีกครั้ง

บนสวรรค์ มหาเทพกับยมราช สงสัยถึงสาเหตุที่ถ้ำถล่ม “คงเป็นเพราะวิญญาณถูกปลดปล่อยพร้อมๆ กัน” มูยองตั้งข้อสังเกต หลังจากมูยองไปแล้ว ยมราชยังคงโมโหที่มีวิญญาณหลุดออกมามากมาย
“ใจเย็นๆ สิ มันทำให้ท่านแก่เร็วนะ” มหาเทพกระเซ้า
“มันเป็นเพราะท่านนั่นแหละ ข้าบอกให้จับมันลงนรกไปซะ การทำตามกฎเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” ยมราชยังคงโวยวาย มหาเทพไม่ค่อยสนใจนัก หันไปกังวลเรื่องอารัง เพราะนางแม่มดคงจะรู้ว่าอารังนั้นไม่ตาย และคงจะหาทางทำร้ายอารังแน่ๆ

นางแม่มดคิดอยู่นานกลับอารมณ์ดีขึ้น สั่งให้ชอยจูวาลพยายามทำตัวใกล้ชิดกับอารัง และนางทำเป็นปลอบใจเขา
“ไม่ว่าใครจะว่ายังไงแต่เจ้าก็เป็นคนสำคัญที่สุด ลูกชาย ...อย่าสงสัยอะไรไปเลย”
นางแม่มดลงไปที่ห้องลับใต้ดิน นางพูดกับตัวเองท่ามกลางไหเก็บวิญญาณร้ายของนาง นางไม่ไว้ใจพวกมนุษย์มากนัก และนางกระหายที่จะได้ร่างของอารังเหลือเกิน ในช่วงเวลาแบบนี้นางต้องการใช้คนแต่ใต้เท้าชอยก็ป่วย ทำให้นางรู้สึกรำคาญใจมาก

ชอยจจูวาลไปจวนนายอำเภอ ขุนนางสามคนบอกว่า นายอำเภอคนใหม่ตายแล้ว ส่วนอารังก็หายตัวไป ในขณะนั้นโดลแซแบกอึนโอวิ่งเข้าจวนมาและบอกให้พาคนไปช่วยอารังเพราะนางตกหน้าผาไปแล้ว
ชอยจูวาลได้ยินดังนั้นจึงรีบขึ้นมาไปบริเวณริมน้ำ
อึนโอได้สติก็ร้องหาอารัง โดลแซก็เอาแต่พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าเขาก็อยู่ตรงนั้น


ชอยจูวาลพบอารังสลบอยู่ริมแม่น้ำ เขาเข้าไปพยุงร่างนางแม้ว่านางจะปฏิเสธ เขาไม่พูดอะไรมากนักและพานางขึ้นม้าไป\

ตอนที่ 1 arang-and-magistrate-1
ตอนที่ 2 arang-and-magistrate-2
ตอนที่ 3 arang-and-magistrate-3
ตอนที่ 4 arang-and-magistrate-4
ตอนที่ 5 arang-and-magistrate-5
ตอนที่ 6 arang-and-magistrate-6
ตอนที่ 7 arang-and-magistrate-7
ตอนที่ 8
ตอนที่ 9
ตอนที่ 10
ตอนที่ 11 arang-and-magistrate-11
ตอนที่ 12 arang-and-magistrate-12
ตอนที่ 13 arang-and-magistrate-13
ตอนที่ 14
ตอนที่ 15 arang-and-magistrate-15
ตอนที่ 16 arang-and-magistrate-16
ตอนที่ 17 arang-and-magistrate-17
ตอนที่ 18 arang-and-magistrate-18
ตอนที่ 19 arang-and-magistrate-19
ตอนที่ 20 arang-and-magistrate-20


ขอขอบคุณ http://forums2.popcornfor2.com/ 
และ http://tvseriesclub.com/
หากนำข้อมูลไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วย http://nicesmilememo.blogspot.com/

Arang and the Magistrate เรื่องย่อ ตอนที่ 6

ชอยจูวาลทำงานพลาดไม่สามารถนำร่างหญิงสาวมาให้นางแม่มดได้ เขาเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย จนเห็นได้ชัด ผู้เป็นพ่อเข้ามาถากถาง
"เจ้าจะหาหญิงสาวมาให้นางทุกครั้งได้อย่างไร ยิ่งเมื่อเจ้าใช้วิธีนี้"
ชอยจูวาลฟังด้วยอารมณ์โกรธ
"ยังไงซะข้าก็เป็นเหมือนรุ่นพี่ของเจ้า จริงหรือไม่" ใต้เท้าชอยยังคงถากถางชอยจูวาลอย่างที่ผู้เป็นพ่อไม่น่าจะทำ

โดลแซวิ่งเข้าไปบอกอึนโอว่าเขาพบบางอย่างผิดปกติ ในขณะที่เขาออกไปหาที่ถ่ายเบา พบว่าพื้นมันแปลกๆ อึนโอรีบไปดูตามที่โดลแซบอก ที่พื้นมีแผ่นไม้ปิดอยู่ ทั้งสองช่วยกันเปิดโดยไม่ทันสังเกตว่ามีผ้ายันต์ปิดอยู่

บนสรรค์มหาเทพกำลังบรรเลงพิณ
"ดูจากการบรรเลงพิณในวันนี้ดูท่า จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นสินะ" ท่านยมเอ่ยแซว
มหาเทพไม่ได้เอ่ยอะไร ยังคงดีดพิณไปเรื่อยๆ ในขณะที่อืนโอพยายามจะเปิดแผ่นไม้ที่พื้น เมื่อเสียงพิณบรรเลงเร่งเร้า ไปจนสุดท่วงทำนอง อึนโอก็เปิดแผ่นไม้ได้พอดี
"เห็นทีคงต้องเรียกมูยองแล้วสิ" มหาเทพเอ่ยขึ้น

เมื่อเห็นที่พื้นหลุมเต็มไปด้วยหินสีขาวและกะโหลกมนุษย์ โดลแซผงะผงายด้วยความกลัว แต่อึนโอกลับกระโดดลงไป
"ไม่นะ ท่านแม่ต้องไม่อยู่ในนี้" เขาควานหาสิ่งของในหลุมด้วยมือเปล่า เผื่อว่าจะมีสิ่งของที่เป็นของท่านแม่

ชอยจูวาลนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่หน้าห้องนางแม่มด จู่ๆ นางก็ออกมาเมื่อรับรู้ได้ถึงการขุดค้นสุสานกระดูก นางสั่งให้ชอยจูวาลรีบไปที่นั่นทันที เมื่อเขาไปถึงก็พบ นายอำเภอพาคนมาขุดค้นสุสานกระดูก ชอยจูวาลเกรงว่าอึนโอจะรู้ความจริงจึงหลบออกไปเงียบๆ

อารังฝืนขึ้น พบตัวเองในห้องของอึนโอ นางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่เข้าใจว่าใครต้องการจะฆ่านาง เพื่ออะไรกัน แต่ต้องแปลกใจมากขึ้นเมื่อนางถูกฆ่า แต่ยังคงมีชีวิตอยู่ นางลองทำร้ายตัวเองปรากฏว่าแผลหายสนิทด้วยความรวดเร็ว นางตะโกนขึ้นฟ้า
"ตาเฒ่า!! ท่านทำอะไรข้า ข้าเป็นมนุษย์หรือว่าไม่ใช่"




อึนโอให้คนขุดสุสานและเก็บเอาสิ่งของของผู้ตายกลับไปให้หมด

มหาเทพเรียกมูยองมาพบ
"400 ปีแล้วสินะ ที่มีวิญญาณไม่ถึงฆาตต้องมาตาย เป็นคดีค้างเก่าที่ไม่จบซักทีนะ" มหาเทพทอดถอนใจ "สถานที่เก็บศพอีกไม่นานจะเปิดเผย"
"ยังไงหรือขอรับ" มูยองถาม
มหาเทพไม่ตอบคำถาม "เจ้าเองก็มีสิ่งที่ต้องทำ"
"เรื่องอารัง เด็กคนนั้น คนที่ตัดด้ายแดงคือท่านใช่หรือไม่"
มูยองถามขึ้นอีก มหาเทพยังคงไม่ตอบ

อึนโอค้นของของผู้ตายที่ขุดขึ้นมาได้ก็ไม่พบสิ่งของใดที่เป็นของท่านแม่เลย อารังลุกขึ้นออกมาพอดี ด้วยความโมโหที่ตามหาแ่ม่ไม่พบ เขาลากอารังออกไปที่สุสานกระดูกเพื่อให้เธอระลึกดูว่า ในตอนที่มีชีวิตนั้น เกิดเรื่องราวอะไรบ้าง อารังไม่ยอมไปได้แต่โวยวาย
"ท่านไม่รู้สิว่าตอนกำลังจะตายมันน่ากลัวยังไง ข้ากลัวจนไม่สามารถไปที่นั่นได้อีก"

นางแม่มดรู้จากชอยจูวาลว่าคนที่ไปขุดสุสานกระดูกคือนายอำเภอ นางสั่งให้เขาไปฆ่านายอำเภอซะ ใต้เท้าชอยมาหานางแม่มดจึงสวนกับชอยจูวาล เขาเยาะเย้ยชอยจูวาลอีก
"ความสัมพันธ์ของข้ากับเจ้าคงจบแค่นี้สินะ แม้จะเป็นพ่อลูกปลอมๆ ก็สนุกดีนะ ..เจ้าเด็กไร้ค่า!!"
เมื่อชอยจูวาลจากไปแล้วใต้เท้าชอยเข้าพบนางแม่มดด้วยความยินดีที่นางวางใจจะให้เขาทำงานอีกครั้ง
ครั้งนี้แลกกกับการหายจากโรคหัวใจที่เขาเป็น

หลังสงบอารมณ์อารังตัดสินใจไปที่สุสานกระดูกเพียงลำพัง แม้นางจะกลัวแต่นางเองก็อยากรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของตน(ลีโซริม) เมื่อนางสะดุดล้มนางเห็นภาพตัวเองดึงปิ่นปักผมออกจากศีรษะของใครคนหนึ่ง

ชอยจูวาลปลอมตัวเพื่อเข้าลอบฆ่าอึนโอ ในขณะที่อึนโอยืนรออารังกลับมาหลังจากทะเลาะกันและนางก็ออกไป อึนโอเดินออกจากจวนไปตามทาง โดยชอยจูวาลแอบติดตามไป อารังวิ่งกลับมาพอดี นางว่านางนึกอะไรได้ แต่อึนโอไม่ได้สนใจฟังเมื่อเห็นว่านางปลอดภัยดี จึงทำเป็นเดินกลับจวน
ชอยจูวาลตะลึงเมื่อเห็นว่าอารังยังมีชีวิตอยู่
อารังภาพที่นางนึกได้ แต่นางก็นึกได้แค่นั้น ทีเหลือจำไม่ได้ เลยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ผู้หญิงที่ปักปิ่นอยู่ ความรู้สึกในตอนนั้น
เมื่ออึนโอรู้ว่านางนึกได้เพราะไปที่สุสานกระดูก ทั้งสองก็เริ่มเถียงกันอีกเพราะในตอนแรกนางว่านางกลัวจนไม่กล้าไปอีก ระหว่างนั้น ชอยจูวาล (เลิกปลอมตัว) ทำทีเดินมาพบเข้า เพื่อดูในแน่ๆ ว่าอารังยังไม่ตายจริงๆ อึนโอเห็นชอยจูวาลเอาแต่จ้องมองอารังเขาจึงจับมือพานางเดินจากมา ปล่อยให้ชอยจูวาลสับสนอยู่ตรงนั้น
"นางยังไม่ตายจริงๆ จะบอกนายหญิงว่ายังไงดีนะ" ชอยจูวาลพึมพำกับตัวเอง เขาหวาดกลัวจริงๆ ยิ่งนึกไปถึงคำพูดของใต้เท้าชอยที่ว่า ถ้าทำงานไม่ดีนายหญิงก็แค่เพียงเปลี่ยนคนทำก็เท่านั้น
ยิ่งเมื่อชอยจูวาลกลับไปที่ห้องนางแม่มด นางบอกว่าพ่อของเขากำลังป่วย
"ตาเฒ่าไร้ประโยชน์" นางพึมพำว่านางจะเลือกระหว่างใต้เท้าชอยหรือชอยจูวาลดี สุดท้ายนางตัดสินใจช่วยใต้เท้าชอยเพราะยังต้องการใช้เขาอยู่

โดลแซนอนซมอยู่ในห้อง นึกน้อยใจที่อึนโอมัวแต่ทำอะไรไม่รู้ ถึงขนาดอึนโอมาชวนไปสุสานกระดูกก็ยังไม่ยอมไปด้วย

ขุนนางสามคน รวมหัวกันคิดจะกำจัดนายอำเภอซะ แต่เปลี่ยนใจคิดไปปรึกษาใต้เท้าชอยแต่ไม่ได้พบเพราะใต้เท้าชอยยังป่วยอยู่ แต่ได้พบกับชอยจูวาลแทน เขาถามถึงผู้หญิงนางหนึ่งที่อยู่จวนนายอำเภอ
"อ่อ นางเป็นบุตรสาวของอาจารย์ของนายอำเภอคนใหม่นะขอรับ"

อารังตื่นขึ้นไม่เห็นอึนโอ นางถามคนในจวนไปทั่วว่าเขาไปไหน โดลแซบอกนางอย่างงอนๆว่าเขาไปสุสานกระดูก
"ฮ่ะ เขาไปที่นั่นคนเดียวได้ยังไง"
ขุนนางสามคนได้ยินแบบนั้นคิดที่จะทำร้ายอึนโอและฝังกลบไว้ที่นั่นซะ

โดลแซออกจากจวนไปอย่างโมโห "ข้าจะต้องกำจัดนาง(หมายถึงอารัง)ให้ได้"

นางคนทรงออกมาเิปิดแผงดูหมอที่ตลาด โซลแดมาเห็นนางจึงคิดจะจ้างให้นางเขียนยันต์กำจัดกาลากิณี ทั้งสองคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะความมุทะลุของโดลแซ จนนางคนทรงวิ่งหนีไป



อึนโอไปที่สุสานกระดูก เขาไม่สัมผัสถึงวิญญาณเลยซักดวงพบแต่ผ้ายันต์สีดำติดไปทั่วหลุม เขามองไปรอบๆ เห็นผ้ายันต์ติดอยู่ที่ต้นไม้อีกหลายจุด


นางแม่มดรับรู้ถึงการดึงเอาผ้ายนต์ออกของอึนโอ

บนสวรรค์ มหาเทพและท่านยมก็กำลังเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์อย่างใจจดใจจ่อ



ตอนที่ 1 arang-and-magistrate-1
ตอนที่ 2 arang-and-magistrate-2
ตอนที่ 3 arang-and-magistrate-3
ตอนที่ 4 arang-and-magistrate-4
ตอนที่ 5 arang-and-magistrate-5
ตอนที่ 6 arang-and-magistrate-6
ตอนที่ 7 arang-and-magistrate-7
ตอนที่ 8
ตอนที่ 9
ตอนที่ 10
ตอนที่ 11 arang-and-magistrate-11
ตอนที่ 12 arang-and-magistrate-12
ตอนที่ 13 arang-and-magistrate-13
ตอนที่ 14
ตอนที่ 15 arang-and-magistrate-15
ตอนที่ 16 arang-and-magistrate-16
ตอนที่ 17 arang-and-magistrate-17
ตอนที่ 18 arang-and-magistrate-18
ตอนที่ 19 arang-and-magistrate-19
ตอนที่ 20 arang-and-magistrate-20


ขอขอบคุณ http://forums2.popcornfor2.com/ 
และ http://tvseriesclub.com/
หากนำข้อมูลไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วย http://nicesmilememo.blogspot.com/

พิมาย-เขาใหญ่-ปาลิโอ

งานนี้มาทำงานและแวะมาเที่ยว 

ตลาดน้ำปากช่อง ตอนที่ไปคิดว่าเพิ่งจะเปิดไม่นานนัก พื้นที่ตลาดมีพื้นที่โล่งอยู่เยอะ ล็อคร้านค้ายังว่างๆอยูหลายล็อก มีน้องแพะน้องแกะด้วย ^^


ตอนค่ำแวะดินเนอร์ที่ the smoke house บรรยากาศดีมากลมเย็นสบาย ร้านสวยมากๆ มีมุมให้ถ่ายรูปจนเหนื่อยเลย (แต่อาหารอาจจะแพงไปนิสนึงนะ)



เช้าอีกวัน จำชื่อที่พักไม่ได้ซะแล้ว ห้องพักแต่ละห้องขึ้นไปนั่งเล่นบนหลังคาได้ นอนดูดาวได้ (ถ้าเห็นดาวอ่ะนะ) อยู่ใกล้กับตลาดปากช่อง จำชื่อที่พักไม่ได้อ่ะ


แวะถ่ายรูปที่ sheep land

เดินป่าชิวๆ ที่ อช.เขาใหญ่


ปราสาทหินพิมาย (เรามีนายแบบด้วยงานนี้^^)


ที่ขาดไปไม่ได้เลยถ้าไปเขาใหญ่คือ ปาลิโอ ตอนที่แวะไปเป็นช่วง 4-5 โมงเย็นแล้ว ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้สบายเลย


Queen of Ambition @ Yawang เรื่องย่อ ตอนที่ 6




วันต่อมาเบคโดฮยองพาดาเฮไปยังสถานที่ที่จะก่อสร้างรีสอร์ท เบคโดฮยองถามดาเฮถึงสิ่งที่ยังคาใจ
เมื่อวานเธอมาสาย เธอไปที่ไหนมาเหรอ รองเท้าเปื้อนโคลนเต็มไปหมด มีที่ไหนในโซลที่จะมีแต่ดินโคลน
ที่ๆ ฉันไปต้องผ่านสนามเด็กเล่นนะคะจูดาเฮมีไหวพริบดีพอที่จะแก้ตัวได้อย่างแนบเนียน
สถานที่ที่เบคโดฮยองจะทำการก่อสร้างรีสอร์ทนั้นคือภูเขาที่ดาเฮและฮาริว ฝังร่างของพ่อของดาเฮเอาไว้ เบคโดฮยองว่าการที่จะก่อสร้างได้ต้องตัดภูเขาลูกนั้นและเอาต้องเผชิญหน้ากับพวกกลุ่มปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ดาเฮไม่ได้จดจ่อกับเรื่องรีสอร์ทมากนัก ในตอนกลับคอนโดดาเฮคิดมากเรื่องศพและภูเขาลูกนั้นจนเป็นลมล้มพับไปตรงทางเข้าซึ่งเบคโดฮุนมาเห็นพอดี เขาพาเธอขึ้นไปพัก และโทรศัพท์กลับไปต่อว่าพี่สาวที่ใช้งานดาเฮจนเป็นลม

เบคโดฮยองไปดูม้าตัวใหม่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง เธอขี่ม้าออกนอกฟาร์มไป
ฮาริวไปสมัครงานที่ฟาร์มเลี้ยงม้า เขาพบเบคโดฮยองกำลังมีปัญหาเมื่อม้าที่เธอขี่ออกมากำลังพยศ เขาเข้าไปช่วยไว้ทำให้รู้ว่าเกือกม้ามีปัญหาทำให้เท้าม้าเป็นแผล
คิดว่าเกือกอันนี้คงต้องเปลี่ยนแล้วนะครับ และคุณควรจะจูงมันกลับอย่าขี่มันกลับเลยดีกว่า
ฮาริวไปสมัครงานที่ฟาร์มเลี้ยงม้าแต่ไม่มีตำแหน่งว่างสำหรับเขาเลย เบคโดฮยองรู้สึกขอบคุณกับความช่วยเหลือของเขา จึงให้นามบัตรแนะนำให้เขาไปสมัครที่ฟาร์มม้าอีกที่หนึ่ง
ฮาริวดีใจที่ได้งานที่สามารถเดินทางจากบ้านไปทำได้ อึนบยอลยังคงเขียนจดหมายถึงแม่


ทางด้านดาเฮเธอคิดถึงทางออกของปัญหาของเธอได้จึงติดต่อไปยังกลุ่มรักษาสิ่งแวดล้อม เธอได้พบกับซองซูจองเจ้าหน้าที่ขององค์กร ในวันงานเลี้ยงของบริษัท ดาเฮได้ความช่วยเหลือจากหัวหน้ายัม ปล่อยให้ซองซูจองเข้างานเลี้ยงได้ และเมื่อมีโอกาส ซองซูจองจึงได้พูดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมต่อหน้าเบคจางฮักและคนอื่นๆในงานเลี้ยง จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้เบคจางฮักคิดจะระงับการก่อสร้าง เบคโดฮยองโมโหมากและรู้จากหัวหน้ายัมว่าจูดาเฮเป็นคนบอกเธอให้ปล่อยซองซูจองเข้าร่วมงาน
ในตอนเย็น เบคโดฮยองพบดาเฮที่บ้านและต่อว่าจูดาเฮอย่างรุนแรง แต่ดาเฮอ้างว่าเธอทำเพื่อบริษัท ในตอนที่เบคโดฮุน มาเห็นเธอแกล้งทำถาดอาหารในมือหล่น เบคโดฮุนโมโหพี่สาวมาก เบคโดฮยองไล่ให้ดาเฮกลับไป
เธอไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว
ดาเฮยังคงทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อยและกล่าวขอโทษเบคโดฮยอง
เบคโดฮุนปกป้องดาเฮทุกทางต่อว่าพี่สาวที่แกล้งให้ดาเฮทำความสะอาดคอกม้า พี่เป็นคนใจแคบแบบนี้เองนะเหรอ ..ผมผิดหวังในตัวพี่จริงๆ

ซองซูจอง(เป็นคนในองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนสนิทกับชาแจวุง) สืบรู้ว่าเด็กชายที่มีรูปถ่ายแบบเดียวกับชาแจวุงอาศัยอยู่กับฮงอาชิม เธอไปหาฮงอาชิมที่ร้านแต่สวนกันเมื่อฮงอาชิมกลับไปกับแทคเบแล้ว


เบคโดฮุนห่างเหินจากเบคโดฮยองมากขึ้นเพราะไม่พอใจที่ดาเฮเหมือนถูกแกล้งและใช้งานหนัก เบคจีมีบอกเขาว่ายิ่งเขาทำแบบนี้จะยิ่งทำให้พวกเขาไม่ลงรอยกันมากขึ้น
เบคโดฮุนไปหาเบคโดฮยองที่ฟาร์มม้า เขาชนกับฮาริวจนฮาริวล้มลง ฮาริวเห็นเขากำลังมองหาใครบางคนจึงถามขึ้น และบอกว่าเขาเป็นพนักงานใหม่จึงไม่รู้จักเบคโดฮยอง เบคโดฮุนจึงบอกว่าคนที่เป็นเจ้าของม้าชื่อลิซ่า
อ่อ เธอกลับไปแล้วนี่ครับ
เบคโดฮ่ยองบอกพ่อว่าเธอจะดำเนินการก่อสร้างต่อไปและหากงานนี้ไม่สำเร็จเธอจะลาออก
แกมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เมืองขี่ม้า หรือว่า..จูดาเฮเบคจางฮักถามลูกสาว ถึงกับเอาตำแหน่งเป็นประกัน จะทำอะไรก็ทำเถอะ

เมื่อจูดาเฮหยุดการก่อสร้างไม่ได้ เธอคิดจะขอความช่วยเหลือจากฮาริว เธอไปหาฮาริวที่บ้าน เห็นอึนบยอลเล่นอยู่ที่สนาม แต่เธอแค่เพียงแอบมองอยู่ที่นอกรั้วเท่านั้น
จูดาเฮรอพบฮาริวจนมืดค่ำ เธอเอาอึนบยอลมาอ้างว่าเธอจะถูกจับไม่ได้
อึนบยอลฉันเลี้ยงด้วยตัวเองมา 2 ปี เธออย่ามาเอาอึนบยอลมาอ้าง
จากนี้ไปฉันจะเลี้ยงลูกเอง ลูกจะได้แต่งตัวสวยๆ เรียนสูงๆ และไม่มีใครมาชี้หน้าด่าลูก
ฮาริวไม่ตอบอะไรมากและเดินจากมาอย่างไม่มีเยื่อใย
ฮาริว...พี่ฮาริววว!!”

เมื่อหมดหนทางดาเฮคิดขอความช่วยเหลือจากเบคจีมี แม้เบคจีมีจะไม่บอกว่าจะอยู่ข้างใคร
คนที่มีอิทธิพลต่อเบคโดฮยองก็มีแต่เบคโดฮุน และคนที่มีผลกับเบคโดฮุนก็คือเธอ..จูดาเฮ

จูดาเฮไม่ไปทำงานและปิดมือถือ เบคโดฮุนมาหาเธอที่คอนโด ตอนนั้นจูดาเฮกำลังเก็บเสื้อผ้าและทำทีจะย้ายไปจากที่นี่

เบคโดฮยองลืมของไว้ที่ฟาร์มม้า ฮาริวที่ต้องกลับบ้านที่โซลอยู่แล้วจึงอาสาเอาไปคืนให้

ค่ำวันนั้นเบคโดฮุนนัดกินข้าวเย็นกับเบคโดฮยอง เมื่อเห็นว่าจูดาเฮมาด้วย เธอก็อารมณ์เสีย
ถ้าจะมาพูดเรื่องนี้ก็ควรจะนัดกันแค่สองคนสิ
จูดาเฮรู้ตัวเธอจึงทำทีเลี่ยงออกมา เบคโดฮุนไม่สบายใจจริงๆ
พี่รู้มั้ยสำหรับผม พี่เปรียบเสมือนแม่ที่ผมไม่เคยมี ส่วนดาเฮเหมือนเป็นพี่สาวผม ผมไม่อยากเสียใครคนหนึ่งไป
แม้ว่าเบคโดฮุนจะสั่งอาหารไว้แล้วแต่เบคโดฮยองยังทำใจไม่ได้ที่จะร่วมโต๊ะอาหารกับจูดาเฮ เบคโดฮุนจึงขอตัวกลับก่อน
นูน่า..ผมรักพี่นะครับ

เบคโดฮุนเจอกับฮาริวที่หน้าร้านอาหารพอดี ทั้งสองทักทายกัน ฮาริวว่าเขาเอาของมาคืนให้เบคโดฮยอง
เข้าไปสิ พี่สาวผมอยู่ในนั้น่

ฮาริวเอาของให้เบคโดฮยอง เธอชวนเข้าทานด้วยอย่างไม่ได้คิดอะไร และถือเป็นการขอบคุณเขา แม้มันจะอึดอัดอยู่บ้างแต่ฮาริวก็ทานอาหารร่วมกับเธอ

วันต่อมาเบคโดฮยองกำลังตัดสินใจเรื่องจะยกเลิกการก่อสร้างรีสอร์ท และหันมาทำโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผู้จัดการคิมที่ดูแลงานที่ภูเขารายงานว่าศพที่ขุดพบนั้นดูเหมือนจะเป็นการถูกนำมาแอบฝังไว้ เบคโดฮยองสั่งให้ปิดเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด
มีการสอบสวนกันขึ้น ตำรวจเชิญคนในครอบครัวผู้ตายไปสอบสวน รวมไปถึงจูดาเฮด้วย จูดาเฮได้พบกับจูยางฮยุนอีกครั้ง ตำรวจพบโทรศัพท์มือถือของฮาริว และพลั่วที่มีลายมือของฮาริวตกอยู่แถวนั้น (ฮาริวทิ้งพลั่วไว้เมื่อตอนพาดาเฮมาขุดศพคราวก่อน) จูดาเฮไม่ได้กล่าวอะไร หลักฐานทั้งหมดจึงพุ่งไปที่ฮาริว


ซองซูจอง(เป็นคนในองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนสนิทกับชาแจวุง) สืบรู้ว่าเด็กชายที่มีรูปถ่ายแบบเดียวกับชาแจวุงอาศัยอยู่กับฮงอาชิม เธอไปหาฮงอาชิมที่ร้านแต่สวนกันเมื่อฮงอาชิมกลับไปกับแทคเบแล้ว

มีการสอบสวนกันขึ้น จูดาเฮได้พบกับจูยางฮยุนอีกครั้ง ตำรวจพบโทรศัพท์มือถือของฮาริว และพลั่วที่มีลายมือของฮาริวตกอยู่แถวนั้น (ฮาริวทิ้งพลั่วไว้เมื่อตอนพาดาเฮมาขุดศพคราวก่อน) จูดาเฮไม่ได้กล่าวอะไร หลักฐานทั้งหมดจึงพุ่งไปที่ฮาริว


ขอขอบคุณ www.kodhit.com และ www.popcornfor2.com

Queen of Ambition @ Yawang เรื่องย่อ ตอนที่ 5




เมื่อใกล้ถึงวันที่ดาเฮจะกลับ อึนบยอลรบเร้าให้ฮาริวโทรศัพท์หาแม่ ฮาริวทนรบเร้าไม่ได้จึงโทรศัพท์ไปหาดาเฮ เพื่อนร่วมห้องของเธอเป็นคนรับสาย แม้ฮาริวจะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งนักแต่เขาก็พอเข้าใจได้ว่า ดาเฮกลับเกาหลีแล้ว ฮาริวรีบไปรอที่สนามบิน
จูดาเฮบินกลับเกาหลีพร้อมกับเบคโดฮุน ตอนที่ฮาริวมาถึงสนามบินเธอก็ขึ้นรถลีมูซีนไปพร้อมกับเบคโดฮุนแล้ว เบคโดฮุนให้ดาเฮไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งส่วนตัวเขาจะกลับบ้าน เป็นการกลับบ้านล่วงหน้า เขาไม่บอกที่บ้านก่อนเพราะถ้าที่บ้านรู้คงยกโขยงกันมารับเขา และเขาเองก็เห็นว่าไม่มีใครมารับดาเฮเลย
ฮาริวรอดาเฮที่สนามบินจนค่ำมืด ก็ยังไม่พบเธอ
ทุกคนที่บ้านดีใจกับการกลับมาของเบคโดฮุน โดยเฉพาะเบคจาฮักพอใจกับผลการเรียนของเขาอย่างมาก เบคโดฮยองออกอาการงอนเล็กๆ ที่เขาไม่บอกก่อน รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เขาดูมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น
จูดาเฮเฝ้ามองที่รัดผมอันใหญ่ที่เธอตั้งใจซื้อมาให้อึนบยอล(ก่อนไปอเมริการอึนบยอลบ่นว่าเพื่อนมีที่รัดผมอันใหญ่ส่วนเธอมีแต่อันเล็กๆ)
ฮาริวกลับบ้านโดยไม่มีดาเฮกลับไปด้วย น้าฮงเตรียมอาหารไว้ให้ จึงบ่นว่าผักกาดเยอะแยะที่เตรียมไว้คงกินกันไม่หมดเพราะมีแต่ดาเฮที่ชอบ ฮาริวยังติดต่อดาเฮไม่ได้ แต่ต้องโกหกอึนบยอลว่าแม่ยังไม่กลับ
วันต่อมาแทคเบเห็นผู้หญิงหน้าตาเหมือนดาเฮมากที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จึงบอกฮาริว
เบคโดฮุนให้ดาเฮใช้รถของบริษัทชั่วคราว และบอกว่าอยากจะแนะนำเธอให้รู้จักกับพี่สาวของเขา
เบคโดฮยองประหลาดใจที่ผู้หญิงที่เบคโดฮุนอยากให้เธอรุ้จักก็คือจูดาเฮนั่นเอง
ฮาริวพยายามไปถามพนักงานว่าที่โรงแรมนี้มีแขกชื่อจูดาเฮหรือไม่ แต่มันเป็นกฎทางโรงแรมจึงบอกไม่ได้
เมื่อได้จังหวะเบคโดฮยองได้พูดคุยกับจูดาเฮเพียงลำพัง ดาเฮบอกว่าเธอและเบคโดฮุนรักกันอย่างจริงใจ และทำตัวให้สุภาพที่สุดแม้จะแฝงด้วยความเอาชนะในคำพูดอยู่บ้าง เบคโดฮยองไม่เชื่อใจและประกาศจะขัดขวางคนทั้งคู่
แทนที่คุณจะมาห้ามฉันคุณไปโน้มน้าวคุณโดฮุนจะง่ายกว่านะคะ
ในตอนมาส่งเบคโดฮยองและเบคโดฮุนที่ลิฟต์ เธอล่ำลาและสวมกอดกับเบคโดฮุน หลังจากที่เขาไปแล้ว เธอหันมาพบกับฮาริวที่ยืนอยู่ตรงนั้นและเห็นภาพทั้งหมดแล้ว แม้เธอจะทำตัวไม่ถูก แต่เธอก็บอกตัดสัมพันธ์กับฮาริวอย่างไร้เยื่อไย
ฉันไม่เคยมีความสุขเลย ฉันเกลียดสิ่งที่พี่ทำ
ฮาริวหมดความอดทนและตบเธอ เธอไม่ตอบโต้และบอกว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่เธอจะถูกตบ ฮาริวอาละวาดอย่างหนักทุบกระจกรถของดาเฮจนแตก จึงถูก รปภ.ลากออกมา และต้องติดคุก

เบคโดฮยองพยายามบอกเบคโดฮุนว่าจูดาเฮพยายามเข้าหาเขาเพราะเงินทอง แต่เบคโดฮุนไม่คิดแบบนั้น เรื่องอเมริกา เขาเป็นคนชวนเธอเอง และเมื่อมีเธอเขารู้สึกมีความสุขมาก
ระหว่างอยู่ในคุกฮาริวนึกไปถึงวันเก่าๆ ที่เขาอยู่ร่วมกับดาเฮ คำพูดที่ให้เลิกกันนั้นทำให้เขาเจ็บปวดมาก
อาการพ่อของชาแจวุงดีขึ้นเขาบอกสิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างหนึ่งคือชาแจวุงมีน้องชายฝาแฝดและบอกให้แจวุงตามหาน้องชาย
เบคโดฮุนพาดาเฮไปตีกอล์ฟกับเบคจางฮักพ่อของเขาด้วย เธอทำให้เบคจางฮักถูกใจมาก แต่กลับทำให้เบคโดฮยองไม่พอใจนัก
ฮาริวได้รับการปล่อยตัวตำรวจบอกว่า ทางตระกูลเบคใจดีมากไม่เอาเรื่องเอาราวจากเขา
ฮาริวพยายามง้อดาเฮ ถึงแม้เขาจะไม่ดีพอสำหรับเธอแต่ยังไงเธอก็ยังเป็นแม่ของลูก
เธอทำอย่างนั้นกับลูกไม่ได้นะ
จูดาเฮว่าที่เธอทำก็เพื่อลูก เธอไม่อยากให้ลูกต้องเป็นเหมือนเธอ
ฮาริวกลับบ้าน อึนบยอลไม่อยู่ที่บ้าน เธอบอกว่าจะกลับบ้านเองแต่ก็ยังไม่ถึงบ้าน ฮาริวตามหาไปทั่ว จนนึกได้ว่าเธอเคยพาเขาไปที่เนินเขาเหนือเส้นทางเข้าบ้านเพื่อรอดูว่าแม่จะมารึยัง ฮาริวไปพบอึนบยอลที่นั่น ด้วยอากาศหนาว อึนบยอลยืนรอแม่จนไม่สบายหนักฮาริวโทรศัพท์บอกดาเฮ
ลูกไม่สบายหนัก ร้องหาแต่เธอ..ได้โปรดมาเยี่ยมลูกหน่อยเถอะ ฉันจะไม่รั้งเธอไว้แค่มาเยี่ยมลูกเท่านั้น
คืนนั้นดาเฮมีนัดดื่มกับเบคจีมี เธออยากทำให้เบคจีมีประทับใจจึงอยู่เป็นเพื่อนจนดึก เบคจีมีพูดทีเล่นทีจริงว่าเบคโดฮยองเป็นคนที่รับมือได้ไม่ง่ายนักจูดาเฮต้องการความช่วยเหลือรึเปล่า ดาเฮไม่ได้ตอบอะไร
ดาเฮมาเยี่ยมอึนบยอล ในตอนดึกมากแล้ว ตอนนั้น ฮาริว น้าฮงและแทคเบ กำลังจะกลับดาเฮจึงหลบอยู่อีกมุมหนึ่งน้าฮงบ่นด่าว่าดาเฮที่เธอไม่ยอมมาเยี่ยมลูก แทคเบเองก็ไม่พอใจมากเหมือนกัน ดาเฮรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มาก
วันต่อมาเบคโดฮยองให้ดาเฮไปตักขี้ม้าและทำความสะอาดคอกม้า
คุณคิดว่าจะทำให้ฉันหวาดกลัวและหนีไปเพราะการตักขี้ม้างั้นเหรอ คุณเข้าใจผิด ฉันใช้ชีวิตอยู่กับถังขี้อยู่แล้วดาเฮนึก
ด้วยความโมโหที่ดาเฮไม่มาเยี่ยมลูก ฮาริวนัดพบกับเธอและพาเธอไปที่ฟาร์มเลี้ยงม้า เขาเอาพลั่วไปจะขุดศพพ่อของดาเฮขึ้นมา
เรื่องของเธอมันเริ่มตรงนี้..มันเป็นแบบนี้
ดาเฮรับไม่ได้เธอวิ่งหนีออกมาและขับรถกลับด้วยความหวาดหวั่นและทิ้งฮาริวไว้ตรงนั้น
ดาเฮต้องไปทานอาหารเย็นกับครอบครัวเบค เบคโฮยองสังเกตเห็นรองเท้าที่เต็มไปด้วยดินของดาเฮ จึงเก็บความสงสัยเอาไว้


ขอขอบคุณ www.kodhit.com และ www.popcornfor2.com

Queen of Ambition @ Yawang เรื่องย่อ ตอนที่ 3



Queen of Ambition @ Yawang เรื่องย่อ ตอนที่ 3



จูดาเฮตะลึงกับภาพที่เห็น เธอเดินถอยออกมา ชนกับแทคเบที่ออกมาจากอีกห้อง



เขาทำมากี่ปีแล้ว



5 ปีมาแล้วเขาอยากหาเงินค่าลงทะเบียนเรียนให้เธอ



ดาเฮยังสับสนกับความจริงที่ได้รู้ เธอไม่ให้แทคเบบอกฮาริวว่าเธอรู้เรื่องนี้ แล้วเธอก็กลับบ้านไป ในขณะที่ฮาริวยังคงทุ่มเทกับการทำงาน



ระหว่างทางกลับบ้านเธอนึกไปถึงอดีตวันที่เธอบอกฮาริวว่าเธอจะสละสิทธิ์การเรียนและหางานทำแทน ฮาริวเอาเงินให้เธอและบอกว่าเขาทำงานได้ดี จึงได้เงินมาก ดาเฮพยายามทำใจอย่างมาก ในตอนเช้าฮาริวเอาน้ำผลไม้ปั่นที่ได้จากร้านคาราโอเกะมาปั่นให้ลูกดื่มเหมือนเคย แต่ดาเฮห้ามไว้ และว่ามันได้มาจากสถานที่สกปรก



เธอก็เคยกิน มันจะเป็นอะไร เอาผลไม้ที่เหลือจากที่ทำงานมาให้กินมันผิดอะไรนักหนาเหรอ..!”



ดาเฮอารมณ์เสียและไปลงที่อึนบยอล เมื่อเห็นว่าขนมของอึนบยอลอยู่ในกระเป๋าของเธอ



แม่บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่างเอาของมาใส่กระเป๋าแม่!!”



ดาเฮออกไปทำงานทั้งๆ ที่ยังทะเลาะกับฮาริว เธอพบว่าหัวหน้าบอกพนักงานใหม่คนอื่นๆให้มาก่อนเวลา 30 นาที วันนี้จึงกลายเป็นว่าเธอมาสาย



ฮาริวเห็นว่าดาเฮลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านจึงเอาไปให้ที่บริษัท เธอพาเขาหลบไปที่มุมหนึ่ง และต่อว่าที่เขามาโดยไม่บอกก่อน เธอไม่อยากให้ใครเห็นและเอาไปซุบซิบนินทา และยังต่อว่าฮาริวที่เขาแต่ตัวซอมซ่อ



ฮาริวกลับบ้านพบกับจูยางฮยุนมาด้อมๆมองๆ ฮาริวบอกเขาไปว่าไม่ได้ติดต่อกับดาเฮหลายปีแล้ว เมื่อกลับถึงบ้านฮาริวรีบเก็บข้าวของของดาเฮ



เบคโดฮยองไปขี่ม้าที่สโมสรกับเบคโดฮุน มันเป็นกีฬาที่เธอชอบ เธอเคยเป็นนักกีฬาขี่ม้ามาก่อน เธอซื้อรถให้น้องชายเธอปล่อยให้เขาไปลองรถใหม่



และกลับไปทำเครื่องเคียงไว้ให้เขา เพราะว่าเขาอยู่คนเดียวที่คอนโด ในตอนทำเครื่องเคียง เบคจีมี(อาสาว) หลุดปากกระเซ้าเบคโดฮยองว่าเธอทำตัวเหมือนแม่ มากกว่าพี่สาว



เบคจางฮักกำลังหงุดหงิดที่เบคโอฮุนไม่ยอมไปเรียนต่อ เขาคิดจะยุบทีมฮอกกี้น้ำแข็ง เบคโดฮยองห้ามไว้และเธอจะจัดการเรื่องนี้เอง เบคจางฮักยังคงโมโหมาก



เป็นเพราะฉันเห็นหน้าโดฮุน ทำให้ฉันนึกไปถึงไอ้สารเลวนั่น!!”



เบคโดฮยองสบตาผู้เป็นพ่ออย่างเจ็บปวด



หนูคงต้องไปก่อนจะขึ้นเครื่องสาย



เบคโดฮยองพบว่าเฮกสารไม่ครบ จึงโทรศัพท์กลับไปต่อว่าแผนกที่ดาเฮทำงานอยู่ ดาเฮเห็นหัวหน้าเธอถูกต่อว่าและอาสาจะนำเอกสารนั้นไปให้เบคโดฮยองที่สนามบิน เธอนำเอกสารไปให้เบคโดฮยองได้ทันเวลาพอดี นั่นทำให้เบคโดฮยองแอบพอใจในตัวจูดาเฮ



แทคเบหลอกสาวใหญ่คนหนึ่งว่าไปติดหนี้ฮาริวที่จู่ๆ ก็โผล่เข้าไปทำร้ายแทคเบในขณะทานอาหารกับเธอ ด้วยความสงสารเธอจึงใช้หนี้แทนแทคเบ ฮาริวจึงได้เงินก้อนหนึ่งเพื่อไปเช่าที่พักอีกแห่งให้ดาเฮเพื่อหลบจูยางฮยุนที่อาจย้อนกลับมาหาฮาริวเพื่อถามหาดาเฮ



ฮาริวไปรอดาเฮที่ป้ายรถเมลล์เขาพยายามง้อเธอด้วยการบอกว่า วันนี้จะไปออกเดทกัน ดาเฮพยายามฝืนยิ้มได้บ้าง ในขณะดื่มกาแฟ เขาเกลี่ยกล่อมให้เธอไปอยู่คอนโด และบอกว่าเขามีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง เธอรู้สึกโมโหเมื่อนึกรู้ว่าฮาริวไปทำงานอะไรถึงได้เงินมา เมื่อฮาริวเล่าว่าจูยางฮยุนมาถามหาเธอ เธอจึงยอมไปอยู่คอนโดด้วยความไม่สบายใจนัก



ฉันกำลังจะเริ่มชีวิตอย่างคนปกติแต่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เหรอคะ..



เมื่อเรายังไม่ได้แต่งงานกันตามกฎหมายเขาคงจะตามหาเธอไม่เจอหรอก ฮาริวสวมกอดเธอ มันจะไม่เป็นอะไรนะ



เบคโดฮุนกลับจากการฝึกซ้อมเขานัดกับเบคโดฮยองว่าเมื่อเธอกลับจากญี่ปุ่นเขาจะทำอาหารเลี้ยงและให้เธอมาพบที่คอนโด



ดาเฮอยู่ในคอนโดพบว่าในละแวกนั้นกำลังมีคนโรคจิตชอบมากดออด เธอกำลังยืนพูดคุยกับเพื่อนบ้าน เบคโดฮุนซึ่งกลับมาถึงคอนโดจึงได้พบกับดาเฮพอดี



ฮาริวระเบิดอารมณ์ใส่ผู้จัดการปาร์คหลังจากผู้จัดการเอาแต่ต่อว่าแทคเบที่หน้าตายับเยิน (เพราะถูกฮาริวต่อยตอนหลอกเอาเงินสาวใหญ่ อีกอย่างผู้จัดการปาร์คก็ชอบดูถูกพวกเขาอยู่เป็นประจำ)



เบคโดฮุนกลายเป็นเพื่อนบ้านของดาเฮเขาขอเบอร์โทรศัพท์เธอได้ และเอาไม้ฮอกกี้มาให้เธอเก็บไว้ป้องกันตัว



ฮาริวส่งข้อความถึงดาเฮ ว่าเขาลาออกจากบาร์แล้วจะหางานทำช่วงกลางวัน และหวังว่าเขาและเธอจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีก



เช้าวันรุ่งขึ้นเบคโดฮุนช่วยดาเฮเก็บของที่หล่นจากกระเป๋าถือของเธอ เขาเห็นว่ามันมีขนมเจลลี่หนอนหล่นอยู่ด้วย (จริงๆ มันเป็นของอึนบยอล) เขารู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักจริงๆ



หลังกลับจากญี่ปุ่นเบคโดฮยองให้จูดาเฮเข้าพบเธอพอใจ ที่เพราะเอกสารนั้นทำให้การประชุมราบรื่น เธอบอกดาเฮว่า ในตอนที่ดาเฮเข้าสัมภาษณ์โดยไม่ใส่รองเท้านั้น กรรมการคนอื่นๆ จะไม่ให้ดาเฮผ่าน แต่เธอเองเป็นคนยืนการให้ดาเฮผ่าน เพราะเธอเห็นประวัติดาเฮที่วันเด็กค่อนข้างลำบาก



ตอนนี้คุณคงรู้วิธีเอาตัวรอดแล้วสินะ



ดาเฮยิ้มก่อนจะตอบ ฉันคิดว่าแทนที่จะรู้วิธีเอาตัวรอด ฉันอยากที่จะมีชีวิตรอดมากกว่าคะ



คุณคิดว่าการทะเยอทะยานจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเหรอ



ดาเฮหันไปเห็นรูปถ่ายสมัยที่เบคโดฮยองเป็นนักกีฬาขี่ม้าวางอยู่ เบคโดฮยองว่ากรอบมันแตกและยังไม่ได้เอากรอบใหม่มาใส่



ในตอนเย็นเบคโดฮุนพบกับจูดาเฮที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เบคโดฮยองโทรศัพท์หาเบคโดฮุนและว่าเธอจะไปทำอาหารเย็นให้แต่เบคโดฮุนปฏิเสธ เบคโดฮยองแอบเห็นเขากับดาเฮในซูเปอร์มาเก็ต จึงแกล้งถามว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่เขาโกหกเธอ เบคโดฮยองกลับบ้านอย่างไม่พอใจนัก



เบคโดฮุนแวะเอาของบางอย่างที่บ้าน ระหว่างรอดาเฮลงจากรถมองบ้านหลังใหญ่โต(เรียกว่าคฤหาสน์น่าจะดีกว่า) ของตระกูลเบคด้วยความตื่นตะลึง เบคจีมีเดินเล่นอยู่แถวนั้นจึงเข้ามาทักทายเธอและแกล้งชวนเธอเข้าไปเดินเล่นในบ้าน



ถ้าฉันเข้าไปฉันอาจจะอยากอยู่ที่นี่เลยก็ได้คะ ดาเฮพูดเหมือนติดตลกแต่เธอก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ



เบคโดฮุนเอารองเท้าของเธอที่เขาเก็บได้ มาคืน และถามว่าเธอคบใครอยู่รึเปล่า ดาเฮตัดสินใจจะบอกว่าเธอไม่ได้คบใครอยู่ ระหว่างที่ทั้งสองกินข้าวเย็นด้วยกันฮาริวโทรศัพท์ชวนดาเฮมากินข้าวด้วย เธอปฏิเสธและโกหกว่าเธออยู่กับผู้จัดการ ฮาริวเชื่อสนิท



ตอนค่ำเบคจีมีนัดเบคโอฮยองมาดื่มด้วยและเล่าว่าวันนี้เธอพบโดฮุนพาผู้หญิงคนหนึ่งมาที่บ้าน



เขาสวย แต่น่ากลัวยังไงไม่รู้นะ ดูขี้อายและเชื่อฟัง แต่ดูเหมือนเธอมีเบื้องหลังบางอย่างยังไงไม่รู้นะ



วันรุ่งขึ้น หัวหน้ายัมนำเสนอแฟ้มงานเกี่ยวกับพนักงานใหม่ต่อเบคโดฮยองและว่าจูดาเฮเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม เบคโดฮยองถามถึงเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับจูดาเฮ หัวหน้ายูมเล่าว่าดูเหมือนเธอจะรู้จักกับเบคโดฮุนมาก่อน และย้ายไปอยู่คอนโดแห่งหนึ่งใกล้ๆที่ทำงาน เบคโดฮยองสืบดูจึงรู้ว่าเป็นที่เดียวกับเบคโดฮุนและอาเฮยังย้ายเข้ามาหลังจากโดฮุนไม่นาน



จูดาเฮเอารูปถ่ายของเบคโดฮยองใส่กรอบและมอบให้เธอเป็นของขวัญ แต่จูดาเฮกลับถูกเบคโดฮยองตวาดใส่ เธอกลับมาที่โต๊ะทำงานก็พบว่ามีคำสั่งให้เธอออก ดาเฮรีบวิ่งไปหาเบคโดฮยองเพื่อถามหาเหตุผล เบคโดฮยองไม่ตอบและขึ้นรถออกไป


ขอขอบคุณ www.kodhit.com และ www.popcornfor2.com

Queen of Ambition @ Yawang เรื่องย่อ ตอนที่ 4



จูดาเฮกลับบ้านด้วยอาการเหม่อลอย พบฮาริวที่กำลังทำความสะอาดบ้านให้เธอ



นี่กล่องอะไร เธอไม่ผ่านการฝึกงานเหรอฮาริวทักเมื่อเห็นเธอเข้าบ้านพร้อมกล่องใส่ของ



มันเป็อย่างนี้ได้ยังไง ...ไม่บอกเหตุผลเลยด้วยซ้ำ ดาเฮระเบิดอารมณ์ และขอเวลาอยู่คนเดียวซักพัก ฮาริวจึงกลับไปเงียบๆ



เบคโดฮุนรู้ว่าพ่อของเขายุบทีมฮอกกี้ จึงรีบไปหาพ่อ โดฮุนเห็นว่าพ่อของเขากำลังขึ้นรถออกไป จึงรีบวิ่งไปหาโดยไม่ทันระวังถูกรถชนอาการสาหัส



ระหว่างรอผลตรวจของเบคโดฮุน เบคโดฮยองเห็นมิสคอลจากจูดาเฮในโทรศัพท์ของโดฮุน และเห็นข้อความขอความช่วยเหลือในการนัดเจอเบคโดฮยองจากจูดาเฮ เธอโมโหและขว้างโทรศัพท์นั้นทิ้ง



อัยการชาแจวุงกำลังรอผลอาการของพ่อด้วยความกังวล ซองซูจองมาถึง ทั้งคู่จะเข้าไปดูอาการ ชาแจวุงเดินชนกับเบคโดฮยองพอดี ทั้งสองไม่ได้ใส่ใจอะไรกันเพียงแต่กล่าวขอโทษกันเท่านั้น



อาการของเบคโดฮุนแม้ว่าจะพ้นอันตรายแล้วแต่เขาจะกลับมาเล่นกีฬาไม่ได้อีก



จูดาเฮหาโอกาสพบเบคโดฮยองที่โรงพยาบาลจนได้ เบคโดฮยองต่อว่าที่จูดาเฮคิดจะจับน้องชายของเธอ ดาเฮพยายามปฏิเสธ แต่ก็ยังถูกไล่ออกมา ดาเฮหมดความอดทนจึงต่อว่าเบคโดฮยองกลับ



ฉันเป็นคนจนที่พยายามจะจับผู้ชายรวยๆ งั้นเหรอคะ



ฮาริวเป็นกังวลที่ดาเฮตกงาน น้าฮงคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เขาทั้งคู่ควรจะจดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย เพราะอึนบยอลก็จะเข้าโรงเรียนแล้วด้วย
ดาเฮไม่ยอมจดทะเบียนและอารมณ์เสียด่าว่าฮาริว
"เธอไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่หน่าดาเฮ.."
"ฉันอาจจะร้ายกว่านี้ก็ได้ นี่แค่เพียง 1 ใน 10 เท่านั้น !!"



เบคโดฮุนเสียใจมาหลังจากรู้อาการบาดเจ็บของตัวเอง หลังจากออกจากโรงพยาบาลเขาพยายามตามถาดาเฮจนมาถึงละแวกบ้านของเธอ เธอเพิ่งรู้ว่าเขาประสบอุบัติเหตุ และยังเดินกะโผลกกระเผลกอยู่ เขามาบอกเธอว่าต้องไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วและชวนเธอไปด้วย



ดาเฮไม่ยอมกลับไปนอนบ้านแต่ไปนอนกับน้าฮง เธอครุ่นคิดถึงสิ่งที่เบคโดฮุนพูดอย่างหนัก วันรุ่งขึ้นเธอนำอัฐิของแม่ไปเก็บไว้เธอลำลาแม่



เราอาจจะไกลกันซักพักนะคะ ...แม่อาจไม่เห็นด้วยกับการกระทำครั้งนี้ของหนู



ในตอนเย็นเธอนัดกินอาหารเย็นกับฮาริวและอึนบยอล เธอตัดสินใจขอให้เขาหาเงินส่งเธอไปอเมริกา ฮาริวจึงจำใจต้องกลับไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะอีกครั้ง ไม่ว่าแทคเบจะห้ามยังไงเขาก็ไม่เปลี่ยนใจ



พี่จะกลับไปทำงานแบบนั้นอีกนะเหรอ!?”



เมื่อถึงอเมริกาเธอไปพบกับเบคโดฮุน ในวันหนึ่งเบคโดฮุนอยากพบดาเฮ แต่เธอปฏิเสธจะไปพบเพราะมันดึกแล้ว แต่ด้วยความคิดบางอย่าง ในตอนเช้าเธอจึงไปพบเขา เมื่อไปถึงฝนตกลงมาเธอจึงเปียกไปหมด เธอว่าเธอเป็นห่วงที่เขาว่าเขาทำอะไรไม่ได้เลยและพลาดรถคันสุดท้าย



ด้วยเหตุผลนี้ฉันจึง..ตัดสินใจไปให้สุดทาง” คำพูดของดาเฮมีความหมายบางอย่างต่อการตัดสินใจของเธอเอง แต่เบคโดฮุนกลับรู้สึกอีกอย่าง



นี่คุณเดินมาตลอด 5 ชั่วโมงเลยเหรอ...อย่างทำแบบนี้อีกนะ



เบคโดฮุนสวมกอดจูดาเฮไว้แน่นด้วยความเป็นห่วงและซาบซึ้ง ในขณะที่จูดาเฮมีความรู้สึกอีกอย่าง



ตลอดเวลาที่อยู่อเมริกา เบคโดฮุนกับจูดาเฮคบหากันตลอดและไม่ได้กลับเกาหลีเลย ทางด้านฮาริวกับน้าฮงรู้สึกไม่ดีและอึนบยอลก็ถามหาแม่ตลอดเวลา ในขณะที่เบคโดฮยองสงสัยบางอย่างแต่เบคจางฮักไม่กังวลนักในเมื่อการเรียนของเบคโดฮุนเป็นไปด้วยดี



1 ปีผ่านไป น้าฮงไม่สบายหนัก แทคเบกับฮาริวช่วยกันหาเงินมารักษา ฮาริวตัดสินใจขอร้องให้ดาเฮหยุดเรียนและกลับบ้าน แต่เธอไม่ยอม เขาไปขอร้องให้ผู้จัดการปาร์คช่วยผู้จัดการปาร์คบอกว่าฮาริวขอเงินมาหลายที ครั้งนี้คงให้ไม่ได้



ฉันได้ยินว่าแกเสียเงินมากมายให้ผู้หญิงคนเดียว ..แต่ระวังไว้นะ เงินนะ สามารถทำให้คนทำเรื่องร้ายๆได้



ฮาริวไม่ได้สนใจกับคำเตือนของผู้จัดการปาร์คมากนัก แต่ผู้จัดการปาร์คเห็นใจยังให้ทางเลือกอีกทางแก่ฮาริว คือการให้บริการเป็นการส่วนตัวแก่สาวใหญ่ไฮโซคนหนึ่ง



เบคโดฮุนตัดสินใจขอจูดาเฮแต่งงาน จูดาเฮประหลาดใจกับคำขอนั้น แต่เธอก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว



ถ้าคุณผิดคำพูดละก็คุณตายแน่



ผมพูดจริงนะ



ฮาริวร้องไห้อย่างหนักอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกสูญเสียศักดิ์ศรีของตัวเองไปแล้วจริงๆ


ขอขอบคุณ www.kodhit.com และ www.popcornfor2.com