Star Trek :Into Darkness
บ่งตง ไปดูสตาร์เทร็คภาคนี้ด้วยความรู้สึกอยากดูเล็กๆ เท่านั้น ส่วนตัวแล้วไม่อินกันกับตัน เจมส์ ที เคิร์ก (เกิดไม่ทันดู-*- ทันดูแต่ ฌอง ลุค พิคาร์ด) และกับภาคแรกที่ได้ดูแล้วรู้สึกสนุกแต่ก็ไม่ได้อินอะไร แต่กับภาคนี้อยากบอกว่า...ในที่สุด..สตาร์เทรค แบบที่เคยคุ้นก็กลับมาแล้วว..
แน่นอนว่าในภาคนี้เราจะได้เห็น USS Enterprise ออกโรงสู้รบเต็มเหนี่ยวแบบที่เคยเห็นใน star trek ชุดก่อนๆ อีกครั้ง
จิม สำรวจดาวดวงหนึ่งที่ภูเขาไฟกำลังจะระเบิด และจะทำลายอารยะธรรมที่เพิ่งจะเริ่มต้นของชาติพันธุืบนดาวนั้น จิมทำตามสัญชาตญาณ เขาฝ่าฝืนกฎ เข้ายับยั้งการระเบิดของภูเขาไฟ และทำให้ชาติพันธ์ุบนดาวเห็นยาน ในเหตุการณ์นี้ทำให้ สปอค เกือบตาย แต่จิมก็ช่วยชีวิตเขาไว้
หลังเหตุการณ์นี้ จิม และสป็อค ถูกย้าย ถูกลดตำแหน่ง ความสัมพันธุ์ของพวกเขาไม่ได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน สป็อคที่ทำตามกฎอยู่เสมอ และจิมเคิร์ก ที่ทำตามสัญชาตญาณ แต่ความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนของทั้งคู่ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ผ่านเรื่องราวในภาคนี้
จิมและสป็อคได้ประจำการในยาน USS Enterprise อีกครั้ง หลังหอสมุด สตาร์ฟลีทถูกถล่ม จิมต้องการไปตามล่าตัวการที่ทำให้เกิดเรื่อง การไปของ USS Enterprise ต้องไปแบบลับๆ เพราะ เจ้าตัวการ หลบนี้ไปซ่อนในดาวของพวกคลิงออน ถ้าจิมทำอะไรผิดพลาดจะทำให้ เกิดสงครามขึ้นมาได้ แต่กาลกลับตาลปัตร เมื่อจิมจับ จอห์น แฮรริสันได้ และได้รู้ว่าที่เขาทำแบบนั้นเพราะเขาเองก็ถูกกระทำมาก่อน แต่เขาเองก็เป็นบุคคลอันตราย (แม้ว่าจะดูดียังไงก็ตาม ^^) เขามีความสามารถเกินมนุษย์ แต่ถูกฝังความคิดที่จะกำจัด ชาติพันธ์ที่ต่ำกว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม และสิ่งที่เขาทำลงไปเป็นเพราะต้องการช่วยเหลือพวกพ้อง จากใครอีกคนที่ใช้เขาเป็นเครื่องมือ (และหลอกใช้ เคิร์ก กำจัดเขาอีกทีเพื่อเก็บทุกอย่างให้สะอาดสะอ้าน -*-)
ในระหว่างเหตุการณ์ทั้งหมดความเป็นผู้นำของจิมเคิร์ก ค่อยๆ ฉายแววให้เห็นเรื่อยๆ จากการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวมีความรับผิดชอบ ต่อลูกเรือ ที่อาจเรียกได้ว่า เป็นครอบครัวของเขา (เช่นเดียวกับที่ จอห์น แฮริสัน รู้สึกต่อพวกพ้อง)
....ผมไม่รู้หรอกว่าต้องทำอะไร แต่ผมรู้ว่าผมสามารถจะทำอะไรได้บ้าง...เจมส์ ที เคิร์ก
ในภาคนี้ทำฉากต่อสู้ในอวกาศได้น่าประทับใจ และทำให้รู้สึกว่าได้ดู star trek แบบที่คุ้นเคยจริงๆ อีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัยกว่า เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนมากมาย ไม่ต้องเดาทางให้ยุ่งยาก แต่สิ่งที่หนังทำได้ดีคือ การพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละคร (ในภาคนี้ สป๊อคก็ มีอารมณ์ ความรู้สึกมากขึ้น) การแชร์บทให้ตัวละครทุกๆ ตัว ดูลงตัวสวยงาม ไม่มีใครเด่นไปกว่าหรือด้อยไปกว่าใครในตำแหน่งที่ควรจะเป็น (สงสัยอย่างเดียวอีฉากลูกสาวผู้การใส่ชั้นในนี่มีเพืี่่อ?? )
เอาใบปิดมาแถม เป็นใบปิดในภาพยนตร์แอคชั่นคนละแบบ แต่ใบปิดออกมาให้อารมณ์คล้ายกัน (3 เรื่องบนนี่สนุกจิงๆ ขอบอก^^)