รีวิว / สปอยล์ : doctor sleep ลางนรก


หนังเรื่องใหม่ของท่านอาจารย์โอบีวัน (ยวน แมคเกรเกอร์) 

DOCTER SLEEP เป็นภาคต่อของ THE SHINING หนังที่เคยถูกสร้าง เมื่อปี 1980 ซึ่งแอดมิน เกิดไม่ทันได้ดู ดังนั้นก็จะพูดถึงแต่ตัวหนังดอกเตอร์สลีฟ

ตัวหนังเดินเรื่องด้วย แดน ทอร์เรนซ์ เด็กน้อยผู้มีสัมผัสพิเศษ ซึ่งมีที่ปรึกษาคือ โทนี่ (แน่นอนว่าไม่ใช่คน) โทนี่แนะนำให้แดน รู้จักเก็บสิ่งน่ากลัวที่เขาพบเห็น ไว้ในหีบ ซึ่งอยู่ในมิติทางจิตของแดน
แดนเติบโตมาด้วยการเก็บความพิเศษของตัวเองไว้เงียบๆ ผ่านวันเวลาจนกระทั่งเขาเติบโต
เขาใช้เหล้าเพื่อมอมเมาตัวเองเรื่อยไป จนกระทั่งเขาเดินทางไปยังเมืองเงียบสงบแห่งหนึ่ง
ที่นั่นเขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เลิกเหล้าและทำงานเป็นบุรุษพยาบาลในสถานพักฟื้นผู้ป่วยวาระสุดท้าย
ที่นี่เขาได้ชื่อว่าเป็น ดอกเตอร์สลีฟ

อีกด้านหนึ่ง หนูน้อยแอบบรา สโตน ผู้มีพลังจิต เธอเลือกจะเก็บความพิเศษไว้กับตัวเช่นเดียวกับที่แดนทำ เพราะสายตาของพ่อแม่ที่มองเธออย่างแปลกแยก 
แต่แอบบรามีพลังที่แข็งแกร่งกว่า แดน อีกทั้งเธอยังแอบใช้พลังบ้างในบางครั้ง
จนกระทั่งวันหนึ่งแอบบราพบแดน และส่งข้อความผ่านทางจิต
ข้ามระยะทางหลายพันไมล์ ไปปรากฏข้อความที่ผนังห้องของแดน
"Hello"
ผ่านไป 8 ปี แดนและแอบบรา ส่งข้อความถึงกันนานๆ ครั้งผ่านทางผนังนี้
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะนอนหลับ จิตของแอบบราไปเชื่อมโยงกับจิตของเด็กชายคนหนึ่งที่กำลังจะตาย เธอส่งข้อความไปหา แดน
"MURDER"
ด้วยพลังดิ้นรนต่อสู้เพื่อรอดชีวิตของเด็กชาย ส่งผ่านมาที่แอบบรา และส่งต่อไปยังข้อความที่ผนัง ทำให้ผนังร้าว แดนเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

ที่อีกมุมหนึ่งของประเทศ กลุ่มผู้มีชีวิตอมตะ ผ่านการสูบวิญญาณ บริสุทธิ์จากเด็กน้อยผู้มีพลังพิเศษ โรส ที่เหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่ม สัมผัสได้ถึงแอบบรา แอบบราผู้มีพลังแข็งแกร่งว่าที่เด็กคนไหนที่โรสเคยเจอ
โรสและแอบบราต่างสัมผัสได้ถึงกันและกัน ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันในอีกมิติหนึ่ง
แอบบรา ตามหาแดน และบอกเรื่องการฆาตกรรมเด็กชาย แดนบอกให้เธอซ่อนตัว เพราะเมื่อเธอเห็นฆาตกร ฆาตกรก็เห็นเธอเช่นกัน 
ในท้ายที่สุด แดน เลือกที่กลับมาเผชิญกับความกลัว และร่วมมือกับแอบบราเพื่อต่อสู้กับกลุ่มของโรส
จะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อในภาพยนตร์นะจ้ะ ^^

.................................................

ส่วนตัวเราชอบหนังสไตล์นี้ ไม่ใช่ผีแบบโฉ่งฉ่าง แต่ก็ไม่ใช่หนังจิตวิทยาหนักๆ เนื้อเรื่องไปได้น่าติดตาม แต่ไม่ได้ลุ้นมาก โทนของหนังอาจจะดูคล้ายซีรี่ย์ทางเน็ตฟลิกไปซักหน่อย แต่ก็ไม่ได้เสียดายเงินนัก (อาจจะเป็นเพราะยวนแสดง 55+) เอาซัก 7.5/10 ดีมั้ย ประมาณนี้^^


ตำนานลับสามก๊ก: ความสัมพันธ์ของตัวละคร


หยางผิง - สุมาอี้ อี้เหอ-จ้งต๋า
สองคนนี้รักกันเหมือนเป็นพี่น้องคลานตามกันมา อาจจะเป็นเพราะด้วยวัยที่ไม่ห่างกันมาก และด้วยเคมีที่ลงตัว
สุมาอี้มีลักษณะของผู้นำฉลาดและเด็ดขาดเข้มแข็ง มีความละเอียดรอบคอบ ใจแข็งมากพอที่จะทำเพื่อเป้าหมาย
หยางผิงอ่อนโยนมีเมตตาลักษณะแบบอ่อนนอกแข็งใน ยึดถือหลักการที่จะไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์
ทั้งสองมีบุคลิกที่แตกต่าง แต่ก็สามารถส่งเสริมกันและกันได้
ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่แน่นแฟ้นนี้ มากเกินกว่าผลประโยชน์ทางการเมืองจะมาทำให้แตกหักกันจริงๆ ได้ แม้มันจะยูโทเปียไปหน่อยก็ตาม แต่ในจุดนี้ทำให้คนดูอิ่มใจ ถ้ามีใครซักคนที่เราไว้ใจได้ พูดคุยได้ในทุกเรื่อง ต่อให้มีอุปสรรค หรืออะไรจะยากแค่ไหน เราก็จะสู้ต่อไปได้
หยางผิงมักจะพูดกับฮองเฮาเสมอว่า จ้งต๋าและฮองเฮา เป็นสองคนที่เขาไม่ต้องการให้เป็นอะไรไป เป็นคนสองคนที่เขาต้องปกป้อง แม้ต้องสละราชบัลลังก์ก็ย่อมได้
สุมาอี้จะเป็นสไตล์ไม่พูดแต่ทำ สิ่งที่ทำบางครั้งก็ขัดใจอี้เหออยู่บ้างแต่ก็ทำเพื่อน้องตลอดนะ

หยางผิง - ฮองเฮา
เราไม่รู้ว่าสมัยที่ฮองเฮาอยู่กินกับหลิวเสียนั้นเป็นยังไง
แน่นอนว่าหลิวเสียเกิดมาท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองและสงคราม ผู้จงรักภักดีราชวงศ์ที่แวดล้อมหลิวเสียน่าจะคับแค้นใจและกดดันให้หลิวเสียต้องประคับประคองราชบัลลังก์ไว้ให้ได้ แต่ด้วยการคราองราชย์ตั้งแต่เด็ก หลิวเสียไม่สามารถจะตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองได้ ต้องพึ่งพาผู้คนเหล่านี้ สิ่งนี้น่าจะหล่อหลอมให้เขาเติมโตมา ด้วยความกดดัน เย็นชา หวาดระแวง ฝูโซ่วที่อยู่ในตระกูลเก่าต้องแต่งงานกับหลิวเสีย และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อราชวงศ์ จึงมีบุคลิกที่กดดันและเย็นชา คล้ายหุ่นยนต์โดนโปรแกรมมา โดยที่เราก็ไม่แน่ใจว่าหลิวเสียเต็มใจจะแต่งกับนางรึเปล่า แต่ก็พอเดาได้ลางๆ ว่าหลิวเสียน่าจะชอบสนมตังมากกว่า เพราะสนมตังท้อง55+
---ขอแทรกเล็กน้อย ในส่วนของการทำเพื่อราชวงศ์ ขุนนางเก่าแก่ผู้ภักดีไปผู้โยงการรักษาราชวงศ์ฮั่นไว้เท่ากับการกำจัดโจโฉ ดังนั้น ทั้งหลิวเสีย ฮองเฮา เหล่าขุนนางจึงเต็มไปด้วยความเกลียดชังคนๆ หนึ่ง จนไม่ได้สนใจว่าพสกนิกรจะเป็นอย่างไร---

ในตอนแรกที่ผยางผิงเจอนาง ฮองเฮาผู้เย็นชา ทำทุกอย่างและยอมตายเพื่อกำจัดโจโฉ แต่ฮองเฮาก็ค่อยๆ อ่อนโยนขึ้น มีความเป็นคนมากขึ้น เพราะหยางผิงเป็นคนละเอียดอ่อนจึงเข้าใจว่าอะไรทำให้นางต้องมีบุคลิกแบบนั้น สิ่งที่หยางผิงทำเพื่อนางเป็นการกระทำตามความรู้สึกของคนที่รักกันห่วงใยกัน เป็นสิ่งที่นางไม่เคยได้รับจากหลิวเสีย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนาและส่งเสริมกัน ทั้งในการเมืองและเรื่องส่วนตัว นับว่าเป็นคู่รักที่สามารถจะเดินร่วมทางบนเส้นอุดมการณ์เดียวกัน

สุมาอี้ - หวังถังอิง (หวังเฟย สนมในหงหนงหวัง)
ในตอนแรกสุมาอี้พบถังอิง ในสุสานหงหนงหวัง นางมีวรยุทธแน่นอนว่านางเย็นชาไม่ต่างจากฮองเฮาฝูโซ่ว ความพัฒนาความสัมพันธ์ของสองคนนี้ เหมือนสุมาอี้จะสนุกกับการละลายหัวใจที่เป็นน้ำแข็งของถังอิง และพยายามดึงนางออกจากชีวิตวุ่นวาย ทั้งต้องเป็นสนมหวัง ทั้งเป็นสายลับ
สุมาอี้ปกป้องคนที่ตนรักด้วยการดึงออกมาจากความวุ่นวายและพาไปสัมผัสความสงบ ชีวิตที่น่าจะมีความสุขและเรียบง่าย
คู่นี้จะเป็นลักษณะว่าสุมาอี้อยู่นอกบ้านทำสิ่งที่อยากทำ ส่วนถังอิงจะเป็นบ้านที่อบอุ่นให้เขากลับมาพักพิง
(ส่วนตัวรู้สึกว่าถังอิงตัวเล็กไปหน่อยไม่เหมาะจะเป็นจอมยุทธหญิงซักเท่าไหร่ แต่การสร้างตัวละครนี้ให้เป็นจอมยุทธ ก็แปลกใหม่ดีนะ ทำให้สามก๊กเวอร์ชั่นนี้ดูนุ่มนวลมีความเป็นยุทธจักรนิยาย ไม่ใช่นิยายประวัติศาสตร์แบบเดิมๆ)


ความรักในเรื่องนี้ ฉีกทุกกฎเกณฑ์และจารีต
หยางผิงรักพี่สะใภ้ สุมาอี้รักแม่ม้าย โจผีแอบรักฮองเฮาทั้งที่รักไม่ได้ กุยแกเป็นหนุ่มเสเพล ดีโจโฉไม่มาวุ่นวายเรื่องรักใคร่กับใครด้วย 55+

หยางผิง-โจโฉ
ในตอนแรกหยางผิงคิดกำจัดโจโฉตามที่หลายๆ คนอยากให้เขาทำ เมื่อได้ยินกุยแกพูดถึงโจโฉและอ้วนเสี้ยว บวกกับได้เจอกับอ้วนเสี้ยว หยางผิงเปลี่ยนใจ เพราะโจโฉมีความแกร่งพอที่จะต่อสู้กับอ้วนเสี้ยว และก๊กอื่นๆ ได้ การที่หยางผิงคิดแบบนี้ เพราะเขาไม่ได้เติบโตมาในราชวงศ์ เขาไม่มีความแค้นส่วนตัวกับโจโฉ ดังนั้นเขาจึงมองเหตุการณ์ได้กว้างกว่า เพราะหากมีแค่ราชวงศ์ ก็ไม่สามารถจะทำให้แผ่นดินนี้สงบลงได้ หยางผิงจึงพยายามต่อรองกับโจโฉตลอดเวลาว่าให้ช่วยกันดูแลแผ่นดินด้วยความเท่าเทียม โจโฉมีหน้าที่ทำให้แผ่นดินสงบ ฮ่องเต้มีหน้าที่บำรุงพสกนิกร โจโฉไปรบนอกบ้าน ส่วนหยางผิงคือรบกับขุนนางเก่าในบ้าน แต่ด้วยเหตุการณ์แวดล้อมและความระแวงของโจโฉ ดีลนี้จึงไม่สำเร็จได้อย่างถาวร

หยางผิง-สุมาอี้-โจผี
ส่วนตัวเราชอบการผูกโยงสามตัวละครนี้เข้าด้วยกัน หยางผิงมีน้ำใจ เห็นโจผีเป็นพี่น้อง โจผีทั้งภักดีทั้งอิจฉาฮองเต้ (ทำให้โจผีมีบุคลิกซับซ้อน น่าสนใจ) สุมาอี้ก็เหมือนจะรู้ทันระแวงโจผีอยู่ตลอด แต่ก็ต้องหลอกใช้โจผีตลอด เกลียดแต่ฆ่าไม่ได้ สุดท้ายต้องอยู่กับโจผีแล้วทิ้งหยางผิง เพราะต้องทำเพื่อหยางผิง --ซับซ้อนดีแท้--

หยางผิง-สุมาอี้-กุยแก
หยางผิงเห็นความสามารถและอุดมการณ์ของกุยแก จึงใช้ความจริงใจเข้าสู้เพื่อซื้อใจกุยแก และก็ทำได้สำเร็จ แม้ว่าภายใต้การซื้อใจนั้น สุมาอี้ต้องคอยแก้เกมกับกุยแกเพื่อช่วยหยางผิง มีการไฟท์กันของสุมาอี้กับกุยแกหลายรอบ บางครั้งกุยแกก็ต้องทำเป็นหรี่ๆ ตามองไม่เห็นความผิดปกติบางอย่างในตัวฮ่องเต้หนุ่ม เพราะเชื่อในความจริงใจและปณิธานที่ดีของหยางผิง


สุมาอี้-หยางซิว
หยางซิวไม่ทำเพื่อราชวงศ์ ยอมรับใช้โจโฉด้วย เพราะเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เหมือนที่หยางซิวบอกว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อใครเพียงแค่เลือกข้างที่จะชนะ หยางซิวเห็นหยางผิงเป็นเพียงหุ่นเชิดของราชวงศ์เท่านั้น หยางซิวเห็นสุมาอี้และกุยแกเป็นคู่แข่ง อยากจะเอาชนะ หักเหลี่ยมเฉือนคมกันตลอด เรามองว่าสุมาอี้กับกุยแกพอจะทันกันอยู่ หยางซิวจะด้อยกว่านิดๆ แต่ยังไงซะหยางซิวก็เป็นคนเดียวที่รู้เห็นถึงความผูกพันของสุมาอี้และหยางผิงแม้ว่าสุมาอี้จะแสร้งสวามิภักดิ์ต่อโจโฉก็ตาม

เรื่องย่อ ตำนานลับสามก๊ก (8/8) ตอนจบ

ประมาณตอนที่ 50-54 ตอนจบ

ต่างคนต่างวิถีทางไม่อาจร่วมทางกันเดิน หลังจากสุมาอี้ตัดสินใจไม่ช่วยหยางผิงอีกต่อไป เขาก็ไปเป็นขุนนางในสังกัดของโจโฉ
ฝูหวัน (พ่อของฮองเฮาฝูโซ่ว) ยังไม่ยอมปล่อยปละละวางจากโจโฉ ถึงขนาดทะเลาะกับหยางผิง

หยางผิง "เพียงเพราะจะกำจัดโจโฉ ถังหวังเฟยต้องเสียสละตัวเอง จะต้องมีอีกกี่คนที่ตายไป และหลังจากโจโฉตายไป ข้าจะต้องเป็นหุ่นเชิดให้ใครอีก? ประชาชนไม่ได้อยู่อย่างสงบ ท่านต้องการเช่นนั้นใช่มั้ย"
ฝูหวัน "ใช่!"
----------
ฝูหวันเห็นช่องคิดจะวางแผนทำร้ายโจโฉในระหว่างที่โจโฉเดินทางไปเยว่เฉิง หยางผิงให้ฮองเฮาไปพยายามหว่านล้อมให้เขาล้มเลิกความคิด แต่ก่อนหน้านั้นสุมาอี้ได้มาถึงและพูดคุยบางอย่างกับฝูหวันก่อนแล้ว

สุมาอี้ปล่อยข่าวให้หยางซิวรู้เรื่องนี้ หยางซิวสนิทกับโจสิด รีบไปบอกให้โจสิดไปบอกโจโฉก่อนโจผี แต่โจสิดกลับเป็นห่วงความปลอดภัยของฮองเฮามากกว่าจึงรีบไปบอกฮ่องเต้ หยางซิวรู้สึกผิดหวังในตัวโจสิด ที่มีนิสัยไม่ต่างจากหยางผิง และเขาเองก็ต้องพลาดถึงสองครั้งที่เคยช่วยสงเสริมคนแบบหยางผิง และโจสิด
---------- 
สุมาอี้ได้รับสัญญาณว่าฝูหวันตายแล้ว เขารำพึงกับตัวเอง "ขุนนางตงฉิน น่าเสียดายที่โง่งม"

หยางผิงกับฮองเฮารีบมาที่จวนฝูหวัน มาเจอกับโจโฉที่หน้าจวนพอดี
หยางผิง "เรื่องในครั้งนี้ท่านจะปล่อยไปสักครั้งได้หรือไม่"
โจโฉ "สายเกินไปแล้ว"

ฮองเฮาเข้าไปพบฝูหวันฆ่าตัวตายแล้วที่ห้องโถง ในขณะที่สุมาอี้ยืนรออยู่ที่นั่น
หยางผิง "ท่านทำแบบนี้เพื่ออะไร ท่านไม่ใช่คนจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนี้"
สุมาอี้ไม่ตอบอะไร แต่หันไปเอาหน้ากับโจโฉที่เพิ่งเข้าห้องมา
โจโฉกล่าวกับฮ่องเต้ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจฝ่าบาท แต่ขุนนางของฝ่าบาทไม่ให้โอกาสเราได้ไว้ใจกัน"
โจโฉสั่งให้กักบริเวณฮองเฮาไว้ที่ตำหนักเย็น ในฐานที่ฝูหวันก่อกบฎ
---------- 
หยางผิงที่สูญสิ้นทุกอย่างมาหาสุมาอี้ที่จวน
สุมาอี้ "เจ้ามาทำอะไร"
หยาผิง "ข้ามาดูว่าจ้งต๋าที่ข้าเคยรู้จัก ทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้....และข้า..ไม่เหลือใครให้พูดคุยด้วยแล้ว...หากเจ้าโกรธข้าก็ควรจะฆ่าข้าไม่ควรทำอย่างนี้กับฮองเฮา"
สุมาอี้ "..ข้าเคยทำตามเป้าหมายเจ้า เติมเต็มความต้องการของเจ้า แต่ข้าคิดผิด!! ข้าจะทำตามความคิดของตัวเอง"
หยางผิง "ท่านว่าหากข้ายอมสละราชบัลลังก์ให้โจโฉ จะช่วยฮองเฮาได้หรือไม่..."
สุมาอี้ "มากับข้าจะพาเจ้าไปดูอะไรอย่างหนึ่ง"
ที่ศาลาสร้างใหม่สำหรับชุมนุมบันฑิต สุมาอี้ให้หยางผิงลองดันเสากลางอาคาร มีฝุ่นละอองหล่นลงมา
หยางผิง "ทำไมจึงเป็นเช่นนี้"
สุมาอี้ "ทีนี้เจ้าลองคิดดู หาในวันชุมนุมบัณฑิต อาคารที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงนี้พังลงมา จะเกิดอะไรขึ้น..ผู้คนจะก่นด่านินทาโจโฉ ที่สนับสนุนการชุมนุมว่าตั้งใจสังหารหมู่เหล่าบัณฑิต เขาก็จะมีความผิด"
หยางผิง "ทำแบบนี้ไม่ได้"
สุมาอี้ "นี่เป็นทางเดียวที่เจ้าจะช่วยให้ฮองเฮารอด"
สุมาอี้คิดดูท่าทีหยางผิงว่าจะกล้าทำในสิ่งที่ขัดกับมโนธรรมของตัวเองเพื่อคนที่รักได้หรือไม่
---------
ในวันชุมนุมบัณฑิต ขงเส้าฝูมาต่อว่าชุนเหยี่ยนที่ไม่ได้ไปขอร้องต่อโจโฉให้ปล่อยฮองเฮา และยังตั้งอกตั้งใจจัดงานชุมนุมมากกว่า ชุนเหยียนขังขงเส้าฝูไว้ในจวนเพื่อไม่ให้ไปขัดขวางแผนการพังงานชุมนุมของตนเอง (ซึ่งตรงกับแผนที่สุมาอี้คาดเดาไว้)

พี่หมันทองเขาก็เท่นะ ^^
หยางผิงไปร่วมงานชุมนุมเพื่อไม่ให้ชุนเหยี่ยนทำตามแผน เมื่อเหล่าบัณฑิตออกจากอาคารไปหมด ชุนเหยี่ยนให้ฝ่าบาทออกไปรอด้านนอก หยางผิงคิดว่าการที่เขามาจะทำให้ชุนเหยี่ยนล้มเลิกความตั้งใจ แต่หยางผิงคิดผิด เมื่อหยางผิงออกจากอาคารชุนเหยี่ยนผลักเสากลางอาคารเพื่อฆ่าตัวตาย หยางผิงรีบเข้าไปช่วย หมันทองจึงตามเข้าไปช่วยอีกแรง



เสียงลือของบัณฑิตและชาวบ้านที่รู้เหตุการณ์ 'ฝ่าบาททรงเข้าไปช่วย ท่านชุนเหยี่ยน โดยไม่คิดถึงชีวิตของพระองค์เอง'
หยางผิงเห็นว่าหมันทองได้รับบาดเจ็บ "มือของท่านเป็นยังไงบ้าง"
หมันทอง "มือของข้า สมควรแล้วที่เป็นเช่นนี้ วันนี้ข้าเข้าใจแล้วว่า เหตุใดท่านกุยแก ที่รู้ความจริงเรื่องหยางผิงแล้ว กลับเงียบไว้ ...พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ในแบบที่ท่านกุยแกต้องการจริงๆ...แต่...เวลานี้ท่านควรรีบกลับวัง.."
ในที่สุดหมันทองก็เป็นอีกคนที่ยอมรับ ฮ่องเต้(หยางผิง)
---------
ที่ตำหนักเย็น สุมาอี้กับ โจผี เป็นผู้นำยาพิษไปมอบให้ฮองเฮาด้วยตัวเอง โจผีแม้จะเจ็บปวดใจอยู่บ้างแต่ก็สะกดกลั้นอารมณ์บวกกับความอิจฉาที่มีต่อฮ่องเต้ไม่เคยลดลงยิ่งจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำ เมื่อหยางผิงมาถึงช้าไป ฮองเฮาสิ้นใจแล้ว เขาเอ่ยกับฮองเฮาถึงแม้นางจะจากเขาไปแล้วแต่อุดมการณ์ที่มีร่วมกันจะไม่สิ้นสุดลงไปด้วย
โจผีเอ่ยกับสุมาอี้ "คนก็ตายไปแล้ว ข้าไม่เข้าใจจะยังมีอะไรให้หวังอีก"
สุมาอี้ "ท่านและข้าไม่เข้าใจ ก็ใช่ว่าอุดมการณ์นั้นจะไม่มีจริง..พวกเราอยู่ในวังวนแห่งกลียุคนี้ แต่ทุกอย่างจะจบลงในยุคของท่าน" 
โจผี "ข้าเกลียดเขา ที่แม้แต่ฮองเฮาเขาก็ปกป้องไม่ได้ แต่ก็ต้องขอบคุณเขา ข้ายังต้องการเป็นใหญ่แม้ในกลียุคเช่นนี้"

หยางผิงโมโหสุมาอี้ จนคว้ากระบี่มาแทงเขาแต่โจผีกลับคว้าปลายกระบี่เอาไว้
สุมาอี้ "ฮองเฮาต้องตายก็เพราะฝ่าบาท พระองค์ต้องการช่วยผู้คนจากกองเพลิง ก็ต้องยอมแบกรับความเจ็บปวด"
(แอดมิน...นึกย้อนไปที่เมืองเยว่เฉิง ที่ทุกคนร่วมมือกันช่วยเหลือกันออกจากเมืองได้ เวลาผ่านไปกว่าสิบปี...วันนี้ กลายเป็นแก้วร้าวที่ไม่อาจประสาน)
---------
โจโฉได้รับรายงานเหตุการณ์ที่งานชุมนุมบัณฑิต หมันทองรายงานว่าฝ่าบาทเสด็จไปเพื่อไม่ให้ชุนเหยี่ยนทำตามแผน แต่สุดท้ายชุนเหยี่ยนก็ทำ ขณะที่รายงาน ขงเส้าฝู่เข้ามาต่อว่าที่โจโฉสั่งให้ฮองเฮายอมตาย โจโฉบันดาลโทสะสั่งให้หมันทองฆ่าชุนเหยี่ยนและขงเส้าฝู่
(หยางผิงพยายามรักษาชีวิตทุกคน แต่ในความเป็นจริงก็ทำไม่ได้)
โจผีบอกเรื่องนี้กับสุมาอี้ และเอ่ยถึงความรู้สึกที่สุมาอี้มีต่อฝ่าบาท
โจผี "ท่านยังมีความหวังต่อฝ่าบาทหรือไม่"
สุมาอี้ "ข้าละทิ้งเขานานแล้ว" สุมาอี้พกกระบี่ของถังอิงติดตัวอยู่เสมอ "คนมีสองประเภท อ้วนเสี้ยวนั้นเป็นคนโง่ แต่ฝ่าบาทนั้นทำเรื่องโง่ๆ เขาไม่สามารถละทิ้งอุดมการณ์ หรือปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย" (แต่คนใกล้ชิดดันเดือดร้อน😅)
โจผี "นั่นทำให้ข้าเกลียดและกลัวเขา เกลียดความเด็ดเดี่ยวแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก กลัวความนิยมจากประชาชนที่มีต่อเขา"
ที่จวนหยางไท่เว่ย โจผีไปพบหยางซิว และพบจดหมายจากฝูหวันถึงตระกูลหยางให้ร่วมก่อกบฎ หยางซิวไม่อาจหาหลักฐานโต้แย้งได้ จึงยอมตาย แต่ขอไม่ให้โจโฉไปกวาดล้างตระกูล อีกทั้งหยางไท่เว่ยก็ได้เกษียณและกลับไปบ้านเกิดแล้ว

อุบายครั้งนี้หยางซิวยอมแพ้ต่อสุมาอี้ 
"สุมาอี้แม้เจ้าจะหลอกโจผีได้ แต่หลอกข้าไม่ได้ ว่าอุบายนี้เจ้าทำเพื่อใคร"

ซุนฮกพยายามเกลี่ยกล่อมโจโฉให้ไปเยว่เฉิงโดยปล่อยวางเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝ่าบาทไม่ได้รับรู้ด้วย โจโฉไม่รับฟัง เพราะโจโฉพบหลักฐานว่าฝูหวันส่งจดหมายบอกซุนฮกเรื่องก่อกบฎ โจโฉยิ่งโมโหขึ้นไปอีกที่ถูกซุนฮกหักหลัง
ซุนฮก "หลายปีมานี้ข้า อยู่ระหว่างท่านและราชวงศ์ ด้วยความอึดอัดใจ เพื่อส่งเสริมอุดมการณ์ของท่าน และของข้าด้วย มาบัดนี้ท่าน...คงจะไม่ต้องการข้าอีกแล้ว...อาหม่าน ท่าน รักษาตัวด้วย"
ซุนฮกกลับไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจว่าตัวเองต้องคอยประสานระหว่างโจโฉกับราชวงศ์มาหลายปีโดยไม่เคยเคยจะหักหลังโจโฉเลย แต่เวลานี้โจโฉกลับไม่เชือ่ใจเขาอีกแล้ว

โจโฉรำพึงกับตัวเอง "ทำไมคนที่ข้าไว้ใจจึงได้กลายเป็นคนของเขา(ฮ่องเต้)"
พอคิดมากๆ อาการปวดหัวของโจโฉก็กำเริบขึ้นมา

(จริงๆแล้ว ถ้ามองที่เป้าหมายเดียวกันก็ไม่มีหรอก คำว่าคนของเขาหรือคนของเรา มีแต่ทำเพื่อเป้าหมายคือประเทศและประชา แต่ความเป็นอัตตาตัวตนของคนเราก็มักจะทำให้เรามองเรือ่งนี้ไม่ออก-จากใจแอดมิน)

โจผีเข้ามาแจ้งกับโจโฉว่าซุนฮกเผางานเขียนของตัวเองและตายอยู่ในจวนแล้ว
โจโฉ "ข้าไม่ได้บอกให้เขาตาย.."
---------

สุมาอี้มารับพระศพฮองเฮาไปทำพิธี หยางผิงไม่พอใจที่แผนของสุมาอี้ทำให้คนดีๆ อย่างซุนฮกต้องตาย สุมาอี้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แผนนี้นั้นเริ่มต้นตั้งแต่สุมาอี้ไปหาฝูหวน เพื่อให้เขาเขียนจดหมายสองฉบับก่อนตาย ป้ายสีให้ซุนฮก และหยางซิว (อ่า...เริ่มรู้ละว่าที่ก่อนหน้านี้หยางซิวพูดนั้นหมายถึงอะไร สุมาอี้ทำทั้งหมดนี้เพื่อใคร...แผนของสุมาอี้คือกำจัดคนรอบตัวโจโฉทั้งหมด) ระหว่างยืนคิดๆ อยู่นั้นก็มีหมัดหนึ่งพุ่งเข้าที่หน้าสุมาอี้

มีเซ อ่ะ 
หยางผิง "เจ้าใช้ประโยชน์จากการตายของฝูหวัน รู้ไหมหลายๆ ครั้งที่รอดมาได้ก็เพราะซุนฮกช่วยไว้"
สุมาอี้ "การกำจัดซุนฮก ก็เพื่อกำจัดกุนซือของโจโฉ ทุกคนที่เสียสละเพื่อราชวงศ์ฮั่นจะรู้สึกยังไง"
หยางผิง "ข้าต้องการช่วยผู้คน ไม่ใช่แค่ปกป้องราชวงศ์"
สุมาอี้ยังมีอาการทีเ่กิดจากบาดแผลที่หยางผิงแทงเขา "หนึ่งกระบี่ของท่านยังคงรักษาชีวิตข้าไว้ได้อยู่"
หยางผิง "จงต๋า เราคงไม่อาจเดินร่วมทางกันได้ ข้าไม่อาจแลกชีวิตประชาชนกับการกำจัดตระกูลโจ หนึ่งกระบี่ข้าเพื่อส่งท่านไปอยู่กับโจโฉ ทำตามวิธีของท่านไปเถอะ"
สุมาอี้ "ฝ่าบาทรักษาตัวด้วย ทางที่ท่านเลือกจะทำให้ต้องต่อสู้เพียงลำพัง หวังว่าพระองค์จะยังคงเด็ดเดี่ยวและยืนหยัดในอุดมการณ์......"
นี่เป็นครั่่่่่่่่่งแรกที่สุมาอี้ทำความเคารพฮ่องเต้อย่างจริงจัง
"จ้งต๋า...รักษาตัวด้วย"
(ถ้านึกย้อนไปเหตุการณ์ในเยว่เฉิง ต้องแสร้งเป็นคนละฝ่าย การณ์จึงจะสำเร็จ)
โจโฉต้องเสียที่ปรึกษาและเพื่อนเก่าไปมากมาย ตอนนี้โจโฉอายุมากแล้ว เริ่มมีอาการป่วย (เกี่ยวกับสมอง) สิ่งสุดท้ายก่อนจากไปเมืองเยว่เฉิงคือให้โจเจี๋ยแต่งงานกับฮ่องเต้
หยางผิง "ที่โจโฉต้องฆ่าฮองเฮาก็เพื่อจะให้ข้าแต่งงานให้ได้"
โจเจี๋ย "ถ้าหากวันนั้นข้าทำลายจดหมายของกุยแกไปซะ เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น.."
----------

ที่บ้านหลังหนึ่งในขุนเขาริมแม่น้ำ บรรยากาศเงียบสงบ
สุมาอี้ "ท่านชินกับการอยู่ที่นี่รึยัง"
ฝูโซ่ว "ที่นี่ไม่อึดอัดเหมือนอยู่ในวัง"
สุมาอี้เหลือบไปเห็นป้ายวิญญาณฝูหวัน
ฝูโซ่ว "ข้าไม่โกรธ ท่านเรื่องท่านพ่อ ข้ารู้อยู่แล้วว่าข้าห้ามเขาไม่ได้"
....
สุมาอี้ "ในที่สุดเขาก็เลือกทำให้สิ่งที่ถูกต้อง...เจ้าจะไม่บอกที่อยู่แก่เขาจริงหรือ"
ฝูโซ่ว "ข้าไม่อยากให้เขาต้องกังวลเกี่ยวกับข้า"
สุมาอี้ "ข้าจะติดตามโจโฉไปเยว่เฉิง"
ฝูโซ่ว "เขาจะไม่เหลือใครเลยที่สวี่ตู"
สุมาอี้ "วันนี้...เขาแต่งตั้งฮองเฮา...นางคือโจเจี๋ย"
ฝูโซ่ว "นี่จะไม่เป็นการหลอกใช้เด็กสาวคนหนึ่งหรือ"
สุมาอี้ "เจ้ากำลังเห็นใจผู้หญิงที่แต่งงานใหม่กับสามีเจ้า...เจ้าอยู่กับเขามากเกินไปจริงๆ"
....
ฝูโซ่ว "ท่านสร้างที่นี่ไว้ให้ท่านพี่ถัง?"
สุมาอี้ถอนใจ "นางหวังจะอยู่อย่างสงบสุขตลอดมา...ท่านเป็นเพื่อนคนเดียวของนาง ท่านมาอยู่นางคงไม่ว่าอะไร" 

...ย้อนไปในตอนที่หยางผิงคุยกับสุมาอี้ในสถานที่จัดงานรวมบัณฑิต หยางผิงมอบยาชนิดหนึ่งให้สุมาอี้
หยางผิง "เป็นยาที่ปรุงขึ้นเพื่อทำให้เหมือนคนตาย ข้าเคยคิดจะใช้มันกับตัวเอง ตอนนี้ให้เจ้าใช้มันกับฮองเฮา"
สุมาอี้ "เจ้านำมาให้ข้า ทั้งที่เจ้าไม่ควรจะไว้ใจข้าอีกแล้ว"
หยางผิง "ข้ารู้ว่าพี่ชายข้าเป็นคนเช่นไร.."
สุมาอี้ "แต่เจ้าก็จะไม่ได้เจอนาง"
หยางผิง "ไม่เจอหน้า แต่คนึงหา ก็สมควรแล้วที่ข้าจะได้รับผลเช่นนี้ ที่ผ่านมามีแต่ข้าฟังเจ้า ครั้งนี้เป็นเจ้าต้องฟังข้าบ้าง"
สุมาอี้รำพึงกับตัวเอง "เจ้าเคยฟังข้าตอนไหนกัน-*-"
----------

รัชศกเจี้ยงอันปีที่ 18 โจโฉและกองทัพย้ายไปยังเยว่เฉิง
บ้านเมืองอยู่ในสภาวะสงบสุขหลายปี หยางผิงดูแลราษฎรด้วยความเมตตา

จนกระทั่ง มีข่าวว่ากวนอูจะบุกมาสวี่ตูเพื่อเข้าหาฮ่องเต้ ในขณะที่โจโฉป่วยหนัก หยางผิงพาโจเจี๋ยไปหาโจโฉที่ลกเอี๋ยง หวังจะช่วยรักษาโจโฉด้วยความจริงใจ (วิธีการรักษาเนื้องอกในสมองคือต้องผ่าตัด) โจโฉรู้ถึงวิธีรักษาอยู่แล้ว แต่ความหวาดระแวงของเขาจึงไม่ยอมรับการรักษา 
 หยางผิงกล่าวกับโจโฉว่า
"สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุดในชีวิต คือการไม่สามารถร่วมมือกับท่านในการดูแลบ้านเมืองได้"
โจโฉ "หากสวรรค์ให้ข้ามีชีวิตอีกสิบปี ข้าจะร่วมมือกับท่าน"

กว่าจะเจอกันทีก็ต้องกอดกันนิสสสนึง
ที่นี่หยางผิงได้พบกับสุมาอี้อีกครั้ง
สุมาอี้ "เจ้าคนโง่งม รู้หรือไม่ว่าเจ้าอาจจะไม่มีชีวิตรอดในการมาที่นี่"
หยางผิง "ที่นี่มีเจ้า ฉะนั้นข้าจะปลอดภัย"
สุมาอี้ "ทำไมเจ้าถึงไว้ใจข้ามากมาย"
หยางผิง "ข้ารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้เพื่อให้โจโฉตายใจและไว้ใจเจ้า"
สุมาอี้ "ไม่เจอกันนาน พัฒนาขึ้นเยอะนะ"
หยางผิง "ข้าไม่อยากให้เจ้าผิดหวัง"
ก่อนจากกันสุมาอี้ได้มอบรายชื่อทหารที่เป็นกองกำลังส่วนตัวของโจโฉ ซึ่งหยางผิงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต

หลังการตายของโจโฉ เมืองต่างๆ ระส่ำระสาย แม้ว่าโจผีจะขึ้นตำแหน่งแทนพ่อ แต่โจผีกลับมุ่งความสนใจมาที่ฮ่องเต้ ด้วยความอิจฉา เกลียดชัง อยากเอาชนะทั้งฮ่องเต้และบิดา (เป็นโจผีนี่แสดงยากนะทั้งรักทั้งชังอยู่ตลอดเวลา) โจผียกพล สามแสน คุกคามฮ่องเต้ ที่กำแพงเมือง ฮ่องเต้มีกองกำลังที่ได้จากสุมาอี้มานับแสน แต่เขาเลือกจะไม่ใช้ เลือกที่จะเจรจากับโจผี
โจผี "ก่อนตาย บิดาหวังว่าหากมีเวลาอีกสิบปีเขาจะร่วมมือกับฝ่าบาทรวมแผ่นดิน"
หยางผิง "เจ้าจึงยกพลสามแสนมาเพื่อสานปณิธานของบิดางั้นหรือ"
โจผี "ข้าใช้ทั้งชีวิตเพื่อให้บิดายอมรับ .ข้า..มีเป้าหมายของตัวเอง ข้าจะทำให้ได้มากกว่าบิดา..จำเป็นต้องต่อสู้กับท่าน...พี่ใหญ่..ขอโทษด้วย"
หยางผิง "หากเจ้าคิดจะรบกับข้า..อีกสองก๊กจะใช้จังหวะนี้คุกคามเรา การรบนี้จะจบสิ้นเมื่อใด ประชาชนจะอยู่อย่างไร...เจ้าหวังจะให้เกิดสงครามจริงหรือ?"
โจผีไม่เข้าใจ
หยางผิง "เจ้ารู้อยู่แล้วว่าข้าเป็นกษัตริย์ที่ไม่สมควรจะเป็นตั้งแต่แรก...จำเป็นด้วยหรือที่การปกครองจะต้องเป็นเรื่องของสกุลใดสกุลหนึ่ง..."
โจผียอมรับการสละราชบัลลังก์ของหยางผิง (ด้วยความนับถือ อย่างจริงใจ -การให้ศัตรูยอมเคารพเรานี่มันเป็นความรู้สึกยิ่งใหญ่กว่าการชนะศัตรูด้วยกำลังซะอีก-แอดมิน
ตัวละครจะยอมรับหยางผิงทีละคน จากคนตัวเล็กๆ เช่น ขันทีจาง เหล่าบัณฑิต ขุนนางอย่าง ชุนเหยี่ยน กาเซี่ยง หมันทอง ซุนฮก กุยแก คนใกล้ชิดอย่าง ถังอิง ฮองเฮา แม้แต่สุมาอี้ และตบท้ายด้วยศัตรูอย่าง โจโฉ และโจผี)
ถึงเวลาที่หยางผิงจะจบภารกิจการเป็นฮ่องเต้ซักที เพราะเขาวางใจ บัดนี้บ้านเมืองอยู่ในมือผู้ที่เขาไว้ใจที่สุดและมีความสามารถที่สุด ก็คือสุมาอี้นั่นเอง หลายปีที่ผ่านมา การทำเป็นห่างเหินของ หยางผิงและสุมาอี้ทำให้ตระกูลโจไว้ใจจะใช้งานสุมาอี้ แม้ว่าโจผีจะแอบระแวงอยู่เสมอว่าใจของสุมาอี้ยังคงอยู่ที่ฮ่องเต้

หยางผิงกล่าวคำอำลากับโจเจี๋ย
หยางผิง "หลายปีมานี้เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า"
สำหรับโจเจี๋ยได้แค่นี้คงมีความสุขมากพอแล้วแค่ได้อยู่กับหยางผิงเช่นน้องสาวคนหนึ่ง นางรู้ดีว่ายังไงก็คงจะไม่ได้ใจหยางผิงมาครอบครอง
โจเจี๋ย "ข้ารู้เรื่องท่านพี่ฝูโซ่วมาระยะหนึ่งแล้ว...จากนี้ข้าจะกลับไปอยู่กับท่านแม่...หากทุกอย่างเรียบร้อยดีจะไปเยี่ยมท่านทั้งสอง"

โจผีบอกกับเอียวสีว่าเมื่อเขาขึ้นรับตำแหน่งแล้วจะทำตำหนักใหม่และจะได้ใช้เวลาว่างเล่นดนตรีด้วยกันอีก เอียวสีเห็นโจผีแล้วสะท้อนใจ นางคิดถึง ชายหนุ่มที่สดใส กล้าหาญ คนนั้นที่เยว่เฉิง ไม่ใช่โจผีที่สนใจแต่การเอาชนะและราชบัลลังก์

สุมาอี้ขี้ม้าไปส่งหยางผิงที่นอกเมือง
หยางผิง "วันนั้นที่เจ้ามอบกองกำลังให้ เจ้าคาดไว้แล้วว่าข้าจะไม่รบ?"
สุมาอี้ "ใช่ แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะละทิ้งการเป็นฮ่องเต้"
หยางผิง "ภารกิจของข้านั้นจบลงแล้ว หลังจากนี้ข้าอยากให้เจ้าใช้ความสามารถทำให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข"
สุมาอี้ "ดูเจ้าสิ ถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนเป็นฮ่องเต้อยู่นั่น เจ้าทำให้ข้าคิดได้อย่างนึง บ้านเมืองไม่จำเป็นต้องปกครองด้วยสกุลเดียว"
หยางผิง "หลังจากวันนี้...เราจะได้เจอกันอีกมั้ย"
สุมาอี้ "ระหว่างเราไม่เคยเอ่ยคำร่ำลา"

 เจี้ยงอันปีที่ 25 โจผีขึ้นครองราชบัลลังก์ เริ่มต้นราชวงศ์ใหม่

 ในที่สุดหยางผิงก็ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายท่ามกลางธรรมชาติทีสงบร่มรื่น โจผีให้ตำแหน่งเขาได้ดูแลเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง (ตามต้นเรื่องที่หยางผิงเอ่ยกับสุมาอี้ว่า เขาต้องการเพียงรับราชการและใช้ชีวิตเรียบง่าย)
ส่วนสุมาอี้ก็ได้เติบโตเรื่อยไปในวงการเมือง (ตามนิยายต้นฉบับ) ในแบบที่เขาพอใจ
(ไม่ว่ายังไงจ้งต๋าก็ทำเพื่ออี้เหอเสมอแหละ^^
เป็นความรักความไว้ใจท่ามกลางสมรภูมิทางการเมืองที่ยากจะเกิดขึ้นจริง)
--------HAPPY ENDING---

***หมายเหตุ***
เรื่องย่ออาจมีผิดเพี้ยนบ้างต้องขออภัยนะคะ ส่วนชื่อตัวละครบางตัวเป็นจีนกลางบางตัวเป็นฮกเกี๋ยน ขออ้างอิงไว้ตรงนี้คะ
จีนกลาง (ฮกเกี้ยน)
หลิวผิง/หยางผิง ชื่อรอง อี้เหอ
ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) ชื่อรอง จ้งต๋า
ฝูโซ่ว (พระนางฮกเฮา)
หวังถังอิง (พระสนมถัง พระสนมในหวังเช่าเปี้ยน)
เฉาเชา (โจโฉ) ชื่อรอง เมิ่งเต๋อ
กัวเจีย (กุยแก) ชื่อรอง เฟิ่งเซี่ยน
เฉาพี  (โจผี)
เฉาเจี๋ย (โจเจี๋ย พระนางโจเฮา)
หยวนเฉ่า (อ้วนเสี้ยว)
ต่งเฉิง (ตังสิน)
หมันฉ่ง (หมันทอง)
สุนอวี่ (ซุนฮก)
หยางซิว (เอียวสิ้ว)
ฮั่นเซียนตี้ (ฮั่นเหี้ยนเต้) /หวังเช่าเสีย (หองจูเหียบ)/หลิวเสีย //อ้างถึง
หวังเช่าเปี้ยน (หองจูเปียน) /หงหนงหวัง..อ๋องแห่งหงหนง //อ้างถึง
ซุนเช่อ (ซุนเซ็ก) //อ้างถึง
หลี่ปู้ (ลิโป้) //อ้างถึง


เรื่องย่อ ตำนานลับสามก๊ก (7/8) : ความลับเปิดเผย

ประมาณตอนที่ 44-49

ช่วงเวลาที่โจโฉยกทับไปตีกังตั๋งในศึกผาแดงนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขของสวี่ตู เวลาผ่านไปข่าวจากแดนใต้มาถึง โจโฉพ่ายแพ้ในศึกผาแดง
สุมาอี้บอกให้หยางผิงตั้งรับเรื่องที่จะเกิดเมื่อโจโฉกลับมา เขามีลางสังหรณ์ว่าความลับเรื่องฮ่องเต้จะปิดไว้ได้อีกไม่นาน และแม้เขาจะมีแผนในใจ แต่หยางผิงอาจไม่เห็นด้วยกับแผนนี้สักเท่าไหร่
สุมาอี้ถามความเห็นหยางผิงว่าทายาทของโจโฉคนไหนจะเป็นประโยชน์ต่อราชวงศ์ หยางผิงอยากสนับสนุนโจสิด แต่ก็ลำบากใจที่โจผีเป็นพี่ ของโจสิดและเคยมีมิตรภาพที่ดีมาตั้งแต่ตอนไปเยว่เฉิง
สุมาอี้ "เจ้าก็ไม่ได้โง่ แต่ทำไมถึงใจอ่อนอย่างนี้"

เมื่อกลับมาด้วยอายุที่มากขึ้น โจโฉ คิดจะแต่งตั้งผู้สืบทอดอำนาจ จึงให้ โจสิด แต่งงานกับบุตรสาวของชุนเหยี่ยน เพื่อส่งเสริมโจสิด หยางผิงเองก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วย
หยางซิวกระซิบบอกโจสิดว่าโจโฉตั้งใจจะให้โจสิดสืบอำนาจต่อ การทำตัวสนิทสนมกับฮ่องเต้นั้นจะทำให้โจโฉไม่พอใจ

ในงานแต่งงานหยางผิงมีโอกาสได้คุยกับโจเจี๋ย ถึงความรู้สึกที่มีต่อนาง และเห็นนางเป็นเพียงน้องสาว
โจเจี๋ยหลงรักฝ่าบาทนั้นไม่ผิดแปลกอะไร ศึกที่ลกเอี๋ยงนั้น ฝ่าบาทกล้าหาญ ผึ่งผาย การถูกปฏิเสธตรงๆ สร้างความเสียใจให้แก่โจเจี๋ยอย่างมาก

โจผีเข้ามาปลอบใจโจเจี๋ย และคุยไปถึงเรื่องที่ครั้งหนึ่งกุยแกเคยเสนอให้ฝ่าบาทแต่งงานกับโจเจี๋ย ทำให้โจเจี๋ยนึกไปถึงถุงผ้าที่กุยแกเคยทิ้งไว้ให้ เมื่อเปิดถุงผ้าออก เป็นข้อความที่กุยแกทิ้งไว้ถึงเรื่องตัวตนที่แท้จริงของฮ่องเต้คนปัจจุบัน ในความรู้สึกโจเจี๋ยเต็มไปด้วยความสับสน น้องเขยรักกับพี่สะใภ้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง


โจผีบอกให้โจสิดนำเอาถุงผ้านี้ไปให้ฝ่าบาทเพื่อให้ฝ่าบาทหาทางทำให้โจเจี๋ยสงบใจ ในขณะเดียวกัน โจโฉตามมาเจอและรู้ความจริง หยางผิงยืนหยัดในความถูกต้องของการขึ้นครองราชย์สืบต่อจากหลิวเสีย และไม่มีหลักฐานใดบอกว่าเขาคือหยางผิง โจโฉถือว่าฮ่องเต้หลอกลวง หลายปีมานี้นอกจากจะปิดบังความจริงเพื่อราชวงศ์ ยังซื้อใจพสกนิกรและเหล่าขุนนางได้อีกด้วย
โจโฉให้หมันทองจับสุมาอี้ ไปเพื่อเค้นความจริงแทนหลักฐาน ก่อนสุมาอี้ถูกจับโจผีรีบมาบอกให้สุมาอี้พูดความจริงเขาจะหาทางช่วย สุมาอี้ไม่พูดแต่เพียงขอให้โจผีช่วยเหลือพ่อและพี่ของเขา
โจผี "ถึงขนาดนี้แล้วท่านยังช่วยฝ่าบาทปิดบังความจริง เขามีค่าขนาดนั้นเลย!"
ที่ทำการนครบาลสวี่ตู หยางผิงจะพูดเพื่อให้โจโฉปล่อยสุมาอี้ แต่สุมาอี้รีบเตือนสติหยางผิงว่านี่ ทำไปเพื่อหยั่งเชิงและอาจใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เท่านั้น หยางผิงจึงกลับไปเพื่อหาวิธีช่วยสุมาอี้ ระหว่างทางพบโจผี โจผีได้สัญญาว่าจะดูแลช่วยเหลือสุมาอี้

โจโฉกลับบ้านมาลงโทษโจสิดที่เข้าข้างฝ่าบาท โจสิดมีความยอมรับนับถือฮ่องเต้มาตั้งแต่ร่วมรบที่ลกเอี๋ยง และเห็นว่าควรมองที่เหตุการณ์ปัจจุบันการประนีประนอมกับฝ่าบาททำให้บ้านเมืองสงบ และโจโฉออกรบกับเล่าปี่ ซุนกวน แบบไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง
แต่โจโฉกำลังโมโห สั่งลงโทษโจนิดและเปลี่ยนใจยกให้โจผีเป็นทายาทแทน

หมันทองเก็บความสงสัยอยู่ประการหนึ่ง เนื่องจากเขาให้ความนับถือกุยแกมาก แต่ก่อนตายกุยแกได้รู้สถานะที่แท้จริงของฝ่าบาทแล้ว ทำไมจึงไม่คิดเปิดโปงเรื่องนี้ต่อโจโฉ

หยางซิวเห็นท่าไม่ดีว่าความลับของฮ่องเต้ถูกเปิดโปง จึงปรึกษากับหยางไท่เว่ยผู้เป็นบิดา ว่าควรจะแปรพรรคเข้าร่วมกับโจโฉ หยางไท่เว่ยไม่พอใจลูกชายมาก เพราะตระกูลหยางรับใช้รางวงศ์มาแล้วหลายรุ่น พอราชวงศ์ตกต่ำจะทอดทิ้งได้อย่างไร
หยางซิว "ท่านพ่อ ท่านรู้แก่ใจดีว่านี่ไม่มีทางให้เดินแล้ว  ...ท่านเคยเห็นรางวงศ์ฮั่นรุ่งโรจน์หรือไม่? ใยเราต้องยอมรับใช้ฮ่องเต้ผู้นี้ด้วย?"

ฮองเฮาบอกความจริงกับซุนฮก และฝากฝังให้ซุนฮกดูแลฮ่องเต้หลังจากที่พระนางจะยอมฆ่าตัวตายเพื่อรักษาเกียรติยศ (หากเรื่องหยางผิงเปิดเผย แม้ว่าจะมีราชโองการให้หยางผิงน้องชายฝาแฝดสืบต่อราชบัลลังก์จะทำให้หยางผิงไม่ผิด แต่การอยู่กินกันกับฮองเฮาที่ถือว่าเป็นพี่สะใภ้จะทำให้ฝ่าบาทมัวหมอง)
หยางผิงไม่ยินยอม จึงให้ซุนฮกไปต่อรองกับโจโฉ ปณิธานแท้จริงของเขาก็คือเพื่อรวมแผ่นดิน หากรักษาราชวงศ์ไว้แต่ต้องห้ำหั่นกันโจโฉ แผ่นดินแตกเป็นเสี่ยงพสกนิกรต้องลำบากจากสงคราม และหากต้องเสียสละฮองเฮาและสุมาอีี้สู้ยกราชบัลลังก์แก่โจโฉไปเลยดีกว่าหรือไม่  
หยางผิง "หน้าที่ของเราคือดูแลพสกนิกร ทำให้แผ่นดินสงบ มิใช่เพื่อรักษาแต่ราชวงศ์ และเรารู้แก่ใจดีว่าโจโฉไม่เหมือนตั๋งโต๊ะ...ข้าไว้ใจเขา...เขาจะรวบรวมจงหยวนได้"
ฮองเฮา "หลายปีผ่านไป...ท่าน...ไม่เปลี่ยนไปเลย"

ซุนฮกเข้าใจถึงอุดมการณ์ของฮ่องเต้ จึงไปเจรจากับโจโฉให้แสดงความเมตตาด้วยการให้อภัยสุมาอี้ แต่โจโฉกลับมองว่าบัดนี้ซุนฮก ที่ปรึกษาคู่ใจมานานหลายปี กลับมีใจให้กับฮ่องเต้มากกว่าเขา

---------
ระหว่างนั้น
หยางไท่เว่ย กับฝูไท่เว่ย (พ่อของฮองเฮา) สองผู้เฒ่าผู้ยึดมั่นที่จะปกป้องราชวงศ์ฮั่น ฝูไท่เว่ยเสนอให้ก่อการกบฎขึ้นอีก เพราะโจโฉมีอำนาจมากขึ้น หยางไท่เว่ยรู้ว่าฮ่องเต้ไม่ต้องการให้สวี่ตูต้องวุ่นวายอีก หยางไท่เว่ยเสนอตัวว่าจะฆ่าโจโฉซะในงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการของตัวเอง 
ถังอิงอาสาจะเป็นผู้ลงมือ หยางผิงรู้ทันจึงให้ฮองเฮารั้งถังอิงไว้ในวัง ส่วนหยางผิงจะไปร่วมงานเลี้ยง เมื่อเจอหยางไท่เว่ยหยางผิงกระซิบบอกไม่ให้ลงมือเพราะโจหยิน(น้องชายโจโฉ) ได้ยกพลเข้าเมืองมาแล้ว 
หยางผิงยื่นข้อตกลงต่อโจโฉว่าเขา จะสละราชบัลลังก์ หยางไท่เว่ยไม่พอใจในความคิดนี้ ก่อนงานเลี้ยงจะจบลงด้วยดี มีนักฆ่าโผล่มาจะทำร้ายโจโฉ แต่โจผีได้รับบาดเจ็บแทน
พอโจโฉกำลังจะวางใจในราชวงศ์การที่นักฆ่าโผล่มาทำให้ในโจโฉกลับมาหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม
"ข้าอยากจะรู้นัก ผู้ใดเป็นคนกวนน้ำให้ขุ่นในสวี่ตู"
นักฆ่าหนีเข้าไปในวัง โจหยินติดตามไปถึงตำหนักของฮองเฮาพยายามจะให้ถังหวังเฟยแสดงตัว ในที่สุดถังอิงฆ่าตัวตายเพราะโจหยินกล่าววาจาดูหมิ่น (แต่ไม่น่าจะต้องถึงกับตายก็ได้มั้ง)
ฮ่องเต้กับซุนฮกมาถึง
ซุนฮก "จับโจหยิน!! บุกวังหลวง คุกคามทำให้ถังหวังเฟยถึงแก่ความตาย"
หยางผิงตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อได้คิดก็รู้ว่าถังอิงคงก็ไม่ต่างจากฮองเฮาที่พร้อมจะสละชีวิตเพื่อช่วยราชวงศ์   อีกอย่างแผนจะลอบฆ่าโจโฉในงานเลี้ยงเกษียณหยางไท่เว่ยก็ไม่น่าจะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
---------
ในคุกสุมาอี้รู้ข่าวการตายของถังอิงจากพวกทหารที่พาโจหยินมาขังคุก
ซุนฮกรีบไปบอกกับโจโฉว่าถังอิงฆ่าตัวตาย โจโฉถึงกับตกใจ
"เพียงหนึ่งชีวิตก็เปลี่ยนแปลงได้มากมาย"
---------
หยางผิงเจรจากับโจโฉอีกครั้ง เพราะการตายของถังอิง จะสร้างกระแสที่ไม่ดีต่อตระกูลโจ แต่หากโจโฉยอมถอย และปล่อยสุมาอี้ หยางผิงจะยอมปล่อยโจหยินเช่นกัน
โจโฉ "เพื่อปกป้องฐานะของตัวเองท่านถึงกับยอมให้ถังหวังเฟยตาย"
หยางผิง "ข้าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการตายของนาง...และแม้ราชบัลลังก์ข้าก็ไม่ได้สนใจ...แต่ในการดูแลบ้านเมือง มิใช่ท่านหรือข้า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำได้เพียงผู้เดียว"
โจโฉ "แม้ในนาทีนี้ท่านยังไว้ใจข้า?"

ในที่สุดโจโฉยอมถอย เมื่อโจผีตื่นขึ้นจากอาการบาทเจ็บเขาบอกกับโจโฉว่านักฆ่านั้นไม่ใช่ถังอิงอย่างแน่นอน เพราะเป็นผู้ชาย แต่ข้อมูลนี้ก็สายเกินไปแล้ว โจโฉปล่อยวางกับเรื่องนี้ และยกกองกำลังย้ายไปเยว่เฉิง ในสวี่ตูจะให้โจผีเป็นผู้ดูแล
นักฆ่าแท้จริงคือหยวนจื่อคนของหยางไท่เว่ย

หยางผิงไปรับตัวสุมาอี้ในคุกและแจ้งข่าวเรื่องถังอิง ความเจ็บปวดของสุมาอี้นี้คงยากเกินทน 
ที่สุสานหงหนงหวัง...หยางผิงเอื้อมมือไปเพื่อปลอบใจสุมาอี้ แต่ความเสียใจ ความโกรธ เกลียดนั้น ทำให้สุมาอี้ไม่อยากแม้แต่จะใช้มือตัวเองปัดมือหยางผิง จึงได้ใช้ปลายกระบี่ตัดเอาแขนเสื้อตรงที่หยางผิงกลับลังจับอยู่ออกไปให้พ้นจากร่างกายของตัวเอง
สุมาอี้ "ขอให้ความเมตตาของฝ่าบาทปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุข ต่อแต่นี้ข้าจะขอเลือกทางของข้าเอง"
หยางผิง "จ้งต๋าท่านโกรธ เกลียดข้า จะตีหรือจะฆ่าข้าก็ได้ แต่อย่าพูดเช่นนี้อีก"
สุมาอี้ตวัดกระบี่เข้าหาหยางผิง หยางผิงจับปลายกระบี่จ่อที่หัวใจของตัวเอง "จ้งต๋าหลังจากข้าตายไปแล้ว อย่าได้ลืมไปว่า เรายังคงเป็นพี่น้องกัน"

โจผีที่ยังไม่หายดีมาหาทั้งสองที่สุสาน และรับตัวสุมาอี้ไป
สุมาอี้ยอมเป็นที่ปรึกษาให้กับโจผีโดยเต็มใจ ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว (ใจคนดูก็ร้าวรานตามไปด้วย TT )

หยางซิ่วเอ่ยกับโจโฉ หลังฮ่องเต้พระราชทานตำแหน่งและให้โจโฉไปปกครองเยว่เฉง
หยางซิ่ว "ทำแบบนี้ท่านจะไม่ต่างกับเจ้าศักดินาคนอื่นหรือ ท่านไม่กลัวว่าฝ่าบาทจะเปลี่ยนใจหรือ"
โจโฉถอนใจ "ไม่..นานแล้วราชวงศ์ฮั่นไม่มีฮ่องเต้ที่คิดจะรวบรวมแผ่นดิน...จะเป็นฮ่องเต้ที่มาจากที่ใดนั้นไม่สำคัญอีกแล้ว"


--------
***หมายเหตุ***
เรื่องย่ออาจมีผิดเพี้ยนบ้างต้องขออภัยนะคะ ส่วนชื่อตัวละครบางตัวเป็นจีนกลางบางตัวเป็นฮกเกี๋ยน ขออ้างอิงไว้ตรงนี้คะ
จีนกลาง (ฮกเกี้ยน)
หลิวผิง/หยางผิง ชื่อรอง อี้เหอ
ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) ชื่อรอง จ้งต๋า
ฝูโซ่ว (พระนางฮกเฮา)
หวังถังอิง (พระสนมถัง พระสนมในหวังเช่าเปี้ยน)
เฉาเชา (โจโฉ) ชื่อรอง เมิ่งเต๋อ
กัวเจีย (กุยแก) ชื่อรอง เฟิ่งเซี่ยน
เฉาพี  (โจผี)
เฉาเจี๋ย (โจเจี๋ย พระนางโจเฮา)
หยวนเฉ่า (อ้วนเสี้ยว)
ต่งเฉิง (ตังสิน)
หมันฉ่ง (หมันทอง)
สุนอวี่ (ซุนฮก)
หยางซิว (เอียวสิ้ว)
ฮั่นเซียนตี้ (ฮั่นเหี้ยนเต้) /หวังเช่าเสีย (หองจูเหียบ)/หลิวเสีย //อ้างถึง
หวังเช่าเปี้ยน (หองจูเปียน) /หงหนงหวัง..อ๋องแห่งหงหนง //อ้างถึง
ซุนเช่อ (ซุนเซ็ก) //อ้างถึง
หลี่ปู้ (ลิโป้) //อ้างถึง