หลังจากลอดถนนขึ้นมาก็มุ่งตรงไปหาท่านผู้นำที่เทียนอันเหมิน แอบเห็นผู้คนบนกำแพงประตูเยอะแยะมากมายในใจแอบลังเลๆ ว่าจะขึ้นไปดีมั้ย แต่การจะขึ้นไปนั้นเราต้องเสียค่าเข้าอีกจ้า เท่าไหร่จำไม่ได้ และด้วยความว่ากลัวจะเที่ยวไม่ทันก็เลยไม่ได้ซื้อตั๋วขึ้นไป
มาดูผังกันก่อนเข้าชมพระราชวังต้องห้าม คือตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าเราจะสับสน แต่พอไปจริงๆก็งงเหมือนกัน คนก็เยอะแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ใหญ่โตไปหมด
(อันความใหญ่โตนี้เองที่ผู้ออกแบบคงจงใจสร้างให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ต่อสามัญชนที่เข้าไปจะได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของโอรสสวรรค์)DUANMEN |
เราจะต้องผ่านกำแพงใหญ่ๆ จุดที่ 2 คือ Duanmen ถึงจะเจอจุดซื้อตั๋วพระราชวังเป็นแนวยาว ค่าตั๋วช่วงไฮซีซั่น ที่เราไปก็ 60 หยวน (April to October: CNY 60, November to the next March: CNY 40 ) สำหรับใครที่ต้องการเช่า Audio Guide (มีแปลไทยด้วยนะ) เช่าได้จากบริเวณนี้ และอีกจุดที่ gate of supreme harmony (ไท่เหอเหมิน) ถ้าจำไม่ผิดน้าคะ :P
เวลาเข้าชม April to October 8.30-17.00 November to the next March 8.30 - 16.30
จุดขายตั๋วจะปิดก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง
เวลาเข้าชม April to October 8.30-17.00 November to the next March 8.30 - 16.30
จุดขายตั๋วจะปิดก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง
Wumen |
ทางด้านซ้ายกับทางขวาของประตูอู่เหมินจะเป็นทางเข้า zhongshan park กับ Imperial ancestral ซึ่งเราไม่ได้แวะไป ไม่แน่ใจว่าเสียค่าเข้ามั้ยนะ ไหนๆ ได้ไปเที่ยวแล้วก็น่าจะได้ไปทั่วๆ แอบเสียดายนิดๆ
ทางเข้า Imperial ancestral temple |
เข้าพระราชวังมาแล้วจ้า เดินข้ามสะพานซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความดีงาม 5 ประการมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ตรงหน้าเราคือไท่เหอเหมิน แปลตรงตัวได้ว่า ประตูแห่งความสามัคคี ลานที่เรายืนอยู่นี้มี "แม่น้ำทอง" ไหลผ่าน และสะพานหินอ่อนสีขาว สะพาน 5 สะพาน แทนความดีงาม 5 ประการ ได้แก่ เมตตาธรรม มโนธรรม จริยธรรม สัตยธรรม และปัญญา
(แอบเดินตามทัวร์ไทย ^^)
ลานหน้าไท่เหอเหมิน และแม่น้ำทอง (ยืมภาพมาจากกูเกิ้ล) |
แม่น้ำทองและสะพานหินอ่อน (ยืมภาพมาจากกูเกิ้ล) |
ถ่ายภาพสิงโตเฝ้าประตู แต่อาซิ่มคนนี้ ขโมยซีนมาก -*- |
ภาพ Wumen ถ่ายจากไท่เหอเหมิน กำลังซ่อมผนังอยู่ และผู้คนที่มากมาย จนกลืนสะพานหินอ่อนหายไป |
ผ่านไท่เหอเหมินมาจะเข้าสู่พระราชฐานชั้นนอก ประกอบด้วย ตำหนักไท่เหอ ตำหนักจงเหอ และตำหนักเป่าเหอ
พระตำหนักไท่เหอ |
พระตำหนักไท่เหอ เป็นตำหนักด้านหน้าที่สำคัญที่สุดและใหญ่ที่สุดในพระราชวังหลวง ตั้งอยู่บนแท่นหินหยกขาวยกพื้นสูง 2 เมตรเศษ ล้อมรอบด้วยรั้วหินหยกขาว แกะสลักเป็นเมฆ มังกร และหงส์ สร้างในปีค.ศ. 1420 สมัยของพระเจ้าหย่งเล่อ ตรงกลางมีบัลลังก์มังกรสีทอง(มังกร 5 เล็บ สัญลักษณ์ของฮ่องเต้อันสูงส่ง) (ในจุดไม่สามารถเบียดเสียดผู้คนเข้าไปถ่ายรูปได้ -*-) ใช้เป็นสถานที่ฮ่องเต้ออกว่าราชการแผ่นดินรับการเข้าเฝ้าจากขุนนางขุนศึก ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและอาคันตุกะชาวต่างต่างประเทศ หลังคามุงกระเบื้องสีทอง(สีเฉพาะของฮ่องเต้เท่านั้น)
พระตำหนักจงเหอ |
พระตำหนักเป่าเหอ |
พระตำหนักเป่าเหอ เป็นตำหนักหลังที่ 3 อยู่หลังตำหนักจงเหอ เป็นตำหนักใหญ่ มีพื้นที่เท่ากับตำหนักไท่เหอ ภายในมีบัลลังก์ก่อสร้างโดยไม่มีเสาแถวที่ 2 ทำให้ห้องโถงด้านหน้าท้องพระโรงกว้างขึ้น ไม่บังสายพระเนตรพระองค์ฮ่องเต้ ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองบรรดาหัวหน้าชนเผ่ากลุ่มน้อยต่างๆทุกปี ในวันที่ 30 เดือน 12 (วันสิ้นปีของจีน) หรือพิธีอภิเษกสมรสของฮ่องเต้หรือโอรสธิดา
มาถึงในสมัยพระเจ้าเฉียนหลงใช้ที่นี่เป็นสถานที่สอบจอหงวน องค์ฮ่องเต้เป็นผู้ออกข้อสอบและคุมสอบด้วยพระองค์เอง โดยสอบในห้องท้องพระโรงแห่งนี้
(สีหน้านายแบบบอกได้ว่า เหนื่อยมาก พามาดูอารายที่นี่เนียะ :P)
อ้อมพระตำหนักเป่าเหอ ก็จะสิ้นสุดเขตพระราชฐานชั้นนอก เข้าสู่พระราชฐานชั้นใน จากจุดนี้เราจะเห็นจิ่งซานและเจดีย์ขาวที่อุทยานเป่ยไห่ อยู่ไกลๆ ที่ขอบฟ้า คือบอกเลยว่าใจนี่อยากจะรีบๆ ไปเพราะเพลีย จะได้รีบกลับโรงแรม 555
แต่ถ้าหากใครมีกำลังวังชาดีสภาพร่างกายพร้อม จะเดินเล่นไปทางปีกตะวันออกกับตะวันตก ตามตำหนักเล็กๆ จะถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องใช้เครื่องนุ่งห่มของฮ้องเต้และชาววัง เดินชมจนทั่วพร้อมกับดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ ก็จะคุ้มค่าเข้าฝุดๆ :P
เฉียนชิงกง เป็นตำหนักด้านหน้าของวังใน เป็นที่ประทับของฮ่องเต้ เพื่อตรวจเอกสารลงพระนามอนุมัติราชการแผ่นดินประจำวัน |
นั่งหายเหนื่อยซักพักเราก็โซซัดโซเซไปทางขวา (ตะวันออก) ของพระราชวัง เดาว่าน่าจะเป็นห้องพักตำหนักเล็กตำหนักน้อยของ บรรดาเชื้อพระวงศ์ หรือนางสนม รึเปล่า? แต่ปัจจุบันถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ Hall of Art and Craft of Ming and Qing dynasties
ซึ่งถ้าเดินไปทางตะวันออกเรื่อยๆ ก็จะมีทางแยกไป the Palace of Tranquil Longevity ซึ่งจะมีกำแพงที่ตกแต่งด้วยภาพมังกร 9 ตัว The Nine Dragons Screen แต่...เราไมไ่ด้ไป -*-
สวนท้ายพรราชวัง |
สวนท้ายพระราชวัง |
พระราชวังต้องห้ามเนียะกว้างมากๆ มีทั้งปีกซ้ายปีกขวาที่เราไม่มีแรงเดินไปเที่ยวชม ถ้าใครที่รักประวัติศาสตร์จริงๆ ก็ต้องไปให้ทั่วพร้อมเช่า audio guide หรือหาคู่มือมาเลยจะได้ทั้งชมและได้ความรู้ด้วย ส่วนตัวถ้ามีโอกาสไปอีกจะอุทิศเวลาให้ทั้งวันไปเลยคะ ครั้งนี้รีบร้อนไปหน่อยคะ ไม่ค่อยคุ้มเลย ><
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น