ที่ค่ายโจโฉ
สุมาอี้หลอกใช้ความระแวงในตัวโจผีที่มีต่อโจสิด โดยให้โจผีแฉว่าเสบียงในค่ายเป็นของปลอมเพื่อให้โจสิดที่เป็นคนดูแลต้องขายหน้า แต่ในอีกทางหนึ่งเป็นการทำลายขวัญทหาร ก่อนหน้านี้สุมาอี้เคยใช้ให้คนลอบเผาเสบียงโจโฉระหว่างขนส่ง กุยแกจึงต้องทำเสบียงปลอมไม่ให้ทหารเสียขวัญ กุยแกจำใจตัดหัวคนคุมเสบียงเพื่อลงโทษ และส่งหัวให้สุมาอี้บอกว่าเป็นของขวัญแรกพบ
หยางซิวกล่าวกับสุมาอี้ "ข้ารู้ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือเจ้า เพื่ออี้เหอไม่มีอะไรที่เจ้าไม่กล้าทำ"
ที่ค่ายอ้วนเสี้ยว
หยางผิงยอมโดนจับขัง อดข้าวอดน้ำอยู่หลายวัน
จนเฟิ่งเซียนเซิง (ชายหน้าตาอัปลักษณ์คนเดิมคนนั้น) มาพาเขาไปพบกับอ้วนเสี้ยว
อ้วนเสี้ยวเห็นว่าผู้แทนพระองค์คนนี้วุ่นวายนัก มาทำเรื่องวุ่นวายในค่าย
แล้วหนีไปเยว่เฉิง แต่ก็กลับมาที่ค่ายอีก
หยางผิงบอกแก่อ้วนเสี้ยวว่าหากคิดจะฆ่าเขา เขามีเงื่อนไขเดียว คือ
ให้พันหยางเป็นผู้สังหาร แต่พันหยางไม่กล้า และเผยออกมาว่า ชายผู้นี้คือฮ่องเต้
ชุยเหยี่ยนรีบทำความเคารพ อ้วนเสี้ยวจึงทำความเคารพตาม
สกุลของอ้วนเสี้ยวแม้จะรับใช้ราชวงศ์มานาน
แต่ตัวอ้วนเสี้ยวเองไม่เคยให้เกียรติฮ่องเต้ พอมาพบฮ่องเต้ในค่ายทหารเช่นนี้จึง
ไม่รู้จะทำอย่างไรกับฮ่องเต้ จะฆ่าก็ไม่ได้ จะไว้ชีวิตก็ไม่ได้
หลังจากพบกับอ้วนเสี้ยว หยางผิงได้พบว่า
หลิวเสียนั้นต้องยากลำบากเพียงใดในการ ถ่วงดุลอำนาจระหว่างอ้วนเสี้ยวและโจโฉ หยางผิงใช้ความเป็นฮ่องเต้ขอพบกับถังหวังเฟย
(ถังอิงที่โดนจับมาอยู่อีกกระโจมนึงเพราะทรยศอ้วนเสี้ยว เฟิ่งเซียนเซิงวางยาพิษถังอิงเพื่อไม่ให้นางรอดชีวิตออกไปจากค่ายได้)
ถังอิงแม้จะเป็นสายลับให้อ้วนเสี้ยวมานาน แต่เรื่องเปลี่ยนตัวฮ่องเต้นางไม่ได้บอกอ้วนเสี้ยว ส่วนหนึ่งในใจนางก็ยังทำเพื่อราชวงศ์ นางจึงสนับสนุนให้หยางผิงทำตามเป้าหมายของตัวเอง
ถังอิงแม้จะเป็นสายลับให้อ้วนเสี้ยวมานาน แต่เรื่องเปลี่ยนตัวฮ่องเต้นางไม่ได้บอกอ้วนเสี้ยว ส่วนหนึ่งในใจนางก็ยังทำเพื่อราชวงศ์ นางจึงสนับสนุนให้หยางผิงทำตามเป้าหมายของตัวเอง
ถังอิง
"ท่านสามารถดำเนินการตามที่ท่านคิดได้ ไม่จำเป็นต้องทำตาม ฮ่องเต้องค์ก่อน
หรือฮองเฮา หรือหยางไท่เว่ย"
หยางผิง "จ้งต๋าเคยบอกว่า
ความเมตตานั้นไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่การไร้เป้าหมายต่างหากที่อ่อนแอ
เป้าหมายของข้าไม่ใช่แค่จะกำจัดโจโฉเท่านั้น"
ถังอิงรู้สึกพอใจที่หยางผิงมีเป้าหมายเพื่อส่วนรวมไม่คิดแต่การชิงอำนาจกับเหล่าขุนนาง
หยางผิงได้พบว่านิสัยใจคอของอ้วนเสี้ยวนั้น ไม่ต่างจากที่กุยแกเคยพูดไว้ อ้วนเสี้ยวนั้นไม่มีความยำเกรงต่อราชวงศ์เลย เป้าหมายของหยางผิงจึงเปลี่ยนไป จากที่คิดจะสนับสนุนอ้วนเสี้ยวเป็นเลือที่จะช่วยโจโฉ
หยางผิงคาดเดาว่าอ้วนเสี้ยวจะต้องให้สีโย่วแสร้งไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ
เพื่อบอกที่เก็บเสบียงปลอมของอ้วนเสี้ยว ล่อให้โจโฉไปตาย
หยางผิงซ้อนแผนของอ้วนเสี้ยวให้สีโย่วนำจดหมายฉบับนึงไปให้สุมาอี้
พร้อมกับทำเรื่องหนึ่ง
หยางผิง
"เจ้าต้องการจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์หรือไม่?"
สีโย่ว "ท่านคิดจะช่วยโจโฉ?"
หยางผิง "ข้าเพียงแค่ต้องการให้สงครามครั้งนี้สูญเสียน้อยที่สุด
เจ้าไปบอกที่เก็บเสบียงที่แท้จริงของอ้วนเสี้ยวแก่โจโฉ"
----------
ฮองเฮามาหาหยางผิงที่ค่ายอ้วนเสี้ยว เมื่อนางรู้ถึงการเปลี่ยนใจของหยางผิง
นางไม่พอใจอย่างมาก
หยางผิง
"เมื่ออ้วนเสี้ยวชนะโจโฉได้แล้ว ต่อให้ข้าต้องเป็นหุ่นเชิดของอ้วนเสี้ยวอีก
เจ้าก็ไม่ว่าอะไรใช่มั้ย??"
หยางซิวเอ่ยกับสุมาอี้ว่าไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไรอย่างน้อยทั้งคู่ก็มีจุดยืนข้างฮ่องเต้เหมือนกัน
เมื่อหยางซิวรู้ว่าสีโย่วมาสวามิภักดิ์โจโฉด้วยการมาบอกความลับที่เก็บเสบียงของอ้วนเสี้ยว
จึงรีบมาปรึกษาสุมาอี้ว่าจะเชื่อถือสีโย่วได้หรือไม่
สุมาอี้ "เจ้าคนนั้น..ก็ใช้ได้เหมือนกัน
เพียงใช้สีโย่วคนเดียวก็ทำลายโจโฉได้"
ในตอนนี้สุมาอี้
เข้าใจว่าสีโย่วมาบอกที่เก็บเสบียงปลอมเพื่อล่อโจโฉไปตาย
เมื่อโจโฉออกไปจะเป็นโอกาสดี เพราะในค่ายจะเหลือเพียงโจผีและโจสิด จึงบอกให้หยางซิว ไปกับพวกทหารและหาจังหวะเหมาะใช้จางซิ่วทำลายโจผี
แม้ว่าโจโฉอาจจะไม่เชื่อใจสีโย่วหรือฮ่องเต้ซักเท่าไหร่
แต่เขาเชื่อใจกุยแก และหยางผิงเองก็รู้ว่า
กุยแกจะต้องเชื่อใจเขาและจะต้องเชื่อข้อความที่เขาฝากผ่านมาทางสีโย่ว
ดังนั้นแล้วโจโฉจะทำตามคำแนะนำของกุยแก (กุยแกได้เดินทางมายังค่ายของโจโฉที่กัวต๋อแล้ว)
(ตอนที่ 29)
สุมาอี้พบกองทหารเล็กๆ
ในค่ายโจกำลังเตรียมม้าออกนอกค่ายจึงเข้าไปทักชายแก่ผู้หนึ่งที่กำลังผูกผ้าไว้ที่เท้าม้า
สุมาอี้
"ไปเก็บเสบียงทำไมต้องผูกขาม้า นี่เป็นวิธีบุกจู่โจมยามวิกาล
คำสั่งโจซือคงไม่ให้ทำอะไรในฤดูใบไม้ร่วงไม่ใช่หรือ"
ชายแก่ "ขาดเสบียงอาหาร
ท่านโจซือคงก็คงต้องอะลุ่มอล่วยบ้าง"
สุมาอี้ "ท่านลุง ข้าขอเตือนท่าน ไม่ควรไป
หากแม้ท่านชิงเสบียงมาได้ เขาก็จะยัดข้อหาละเมิดกฎทหาร แล้วก็สังหารท่าน"
ชายแก่ "ดูเหมือนท่านจะรู้จักโจซือคงเป็นอย่างดี"
สุมาอี้ "ในอดีต พ่อข้าเป็นคนแนะนำเขา
เขาเชี่ยวชาญเรื่องดึงดูดใจคน ยืมศีรษะคนอื่นสร้างชื่อให้ตนเอง
เขาแกร่งกว่าอ้วนเสี้ยว 10 เท่า"
ชายแก่ "คุณชายพูดจาก โผงผาง แต่ในการปกครอง
อะไรคือการแสดง อะไรคือจริงใจ
ถ้าความสามารถในการแสดงละครของโจซือคงต่ำต้อยถึงเพียงนี้
งั้นเขาก็เป็นอย่างที่พ่อเจ้าว่า มีความสามารถเป็นได้แค่นายอำเภอ"
แล้วชายแก่ผู้นี้ก็ขี้ม้านำทหารออกจากค่ายไป
ทิ้งสุมาอี้ไว้ให้คิด
สุมาอี้ "คำพูดที่บอกว่าโจโฉเป็นได้แค่นายอำเภอ...พ่อบอกแค่โจโฉคนเดียวนี่...เขาคือโจโฉ...อี้เหอไม่คิดที่จะฆ่าโจโฉ"
สุมาอี้ "คำพูดที่บอกว่าโจโฉเป็นได้แค่นายอำเภอ...พ่อบอกแค่โจโฉคนเดียวนี่...เขาคือโจโฉ...อี้เหอไม่คิดที่จะฆ่าโจโฉ"
----------
เมื่อสุมาอี้ได้รับจดหมายอีกฉบับจากหยางผิงถึงเขาโดยตรง สุมาอี้โมโหมาก
สุมาอี้ "เขาจะไม่ฆ่าโจโฉ!!"
สีโย่ว "หากท่านโมโห ก็ไปโมโหฮ่องเต้สิ เขาเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย"
สุมาอี้ "เขาจะไม่ฆ่าโจโฉ!!"
สีโย่ว "หากท่านโมโห ก็ไปโมโหฮ่องเต้สิ เขาเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย"
แม้ว่าสุมาอี้จะไม่พอใจกับการตัดสินใจของหยางผิงแต่เขาก็ตามน้ำโดยเปลี่ยนแผนที่ตกลงกับหยางซิวไว้เล็กน้อย สุมาอี้วางแผนจับโจผีไปต่อหน้าหยางซิวและจางซิ่วเพื่อเค้นความจริงจากจางซิ่วว่าใครเป็นคนฆ่าโจงั่ง ทำให้รู้ความจริงว่าแผนทำลายโจงั่งเกิดจากโจฮูหยิน และโจโฉเองก็น่าจะรู้จึงไม่ค่อยเอ็นดูโจผีเท่าไหร่ (โจงั่งเป็นคนโตและเกิดจากฮูหยินอีกคนนึง) ในตอนนี้สุมาอี้ที่วางแผนกับหยางซิวจะทำลายโจผี กลับปล่อยโจผี และบอกให้จางซิ่วไปกับตนเพื่อช่วยฮ่องเต้กลับมา
(เหตุครั้งนี้หยางซิวไม่พอใจสุมาอี้มากที่เปลี่ยนแผนกะทันหัน และเป็นอีกครั้งที่โจผีถูกสุมไฟแค้น)
----------
----------
ชุนเหยี่ยนมีความจงรักภักดี เตรียมการจะให้หยางผิงและฮองเฮาหนีไปจากค่าย
แต่อ้วนเสี้ยวมาพบจึงพากันไปที่เขาสูงเพื่อดูความหายนะของโจโฉ แต่สถานการณ์พลิกผัน
อูเฉาสถานที่เก็บเสบียงของอ้วนเสี้ยวถูกเผาทำลายสิ้นต่อหน้าต่อตา
อ้วนเสี้ยว "ท่านใช้สีโย่ว!! ทำไมท่านเลือกข้างโจโฉ!!"
หยางผิง
"ข้าไม่ได้เลือกข้างให้ใครชนะหรือแพ้ แต่ข้าเลือกพสกนิกร"
----------
โจผีมาช่วยฮ่องเต้ แต่จอมยุทธหวังเยว่ (ที่เคยทำร้ายโจผีตอนงานพิธีบวงสรวง)
ซึ่งอยู่ข้างอ้วนเสี้ยวใช้โจผีเป็นตัวประกันเพื่อหนีออกมาจากสถานการณ์วุ่นวาย หวังมองเห็นความสามารถของโจผี(หรือเห็นแรงแค้นในใจโจผี?) บวกกับเขาไม่อยากให้เพลงกระบี่สูญหาย จึงสอนให้โจผีใช้ความเคียดแค้นไปกับการฝึกเพลงกระบี่อันดับหนึ่งในแผ่นดิน
เพลงกระบี่ตระกูลหวัง
(เล่าถึงจอมยุทธหวังเยว่ นิดนึง-เขาเล่าถึงตัวเองว่า
ไม่เคยพ่ายแพ้ใครนอกจาก อาจารย์ของถังอิง แต่อาจารย์ของถังอิงก็มาตายเพราะตั๋งโต๊ะ
เขาถ่ายทอดวิชาแกศิษย์น้อง แต่ศิษย์น้องก็มาตาย ตอนปราบกบฎตังสิน)
---------
อ้วนเสี้ยวหนีไป ฮองเฮาพาถังอิงหนีไปพบกับสุมาอี้
หยางผิงต้องย้อนไปเอายาถอนพิษที่เฟิ่งเซียนเซิง เพื่อช่วยถังอิง
แต่เฟิ่งเซียนเซิงนั้นก็มาตายด้วยน้ำมือกุยแก กุยแกได้รับบาดเจ็บ
หยางผิงช่วยไว้แล้วตามมาสมทบกับสุมาอี้ ทั้งหมดกลับไปที่ค่ายโจ
เพื่อรักษาถังอิงต้องใช้เลือดจากกุยแก
(เล่านิดนึงเกี่ยวกับเฟิ่งเซียนเซิง กุยแก และขันทีเหลิ่ง เป็นศิษย์สำนักเดียวกัน
ในอดีตเฟิ่งเซียนเซิงทดลองยาบางอย่างกับกุยแกทำให้เขาคลุ้มคลั่ง
ข่มขืนและฆ่าบุตรสาวของอาจารย์ เฟิ่งเซียนเซิงโยนความผิดนี้ให้กุยแก
และคิดจะแก้แค้นมาตลอด ส่วนอาจารย์โมโหไปลงกับลูกศิษย์ จับลูกศิษย์ทุกคนตอน
ขันทีเหลิ่งก็เลยมีโอกาสเข้าวังไปเป็นขันที เขาแอบมีใจให้ฮองเฮาจึงรับใช้ด้วยความภักดีและเนื่องจากขันทีเป็นคนดีมีน้ำใจไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นและมีความรู้ทางแพทย์จึงปรุงยารักษาตัวให้กุยแก
มาตลอดหลายปี และเพราะเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน วิชาแพทย์ก็น่าจะเป็นสายเดียวกัน
เลือดของกุยแกก็น่าจะล้างพิษของเฟิ่งเซียนเซิงได้....โอ้ววว เหนื่อย -*-)
---------
ในค่ายโจ โจโฉมีโอกาสคุยกับสุมาอี้และชักชวนให้เข้ารับราชการ
แต่สุมาอี้ปฏิเสธ โจโฉรู้ว่าสุมาอี้เป็นคนมีความสามารถแต่การจะควบคุมสุมาอี้นั้นไม่ง่าย
เมื่อกุยแกอาการดีขึ้นเขาบอกแก่โจโฉว่า
ในศึกครั้งนี้เป็นเพราะได้รับการช่วยเหลือจากฮ่องเต้ แต่นิสัยโจโฉไม่ไว้ใจใครง่ายๆ
เพราะฮ่องเต้นั้นไม่ลงรอยกับเขามาตลอด แต่กุยแกกลับบอกว่าในเวลา 2-3
ปีมานี้ฮ่องเต้เติบโตไปมาก และไม่ได้เพ่งเป้ามาที่โจโฉอีกต่อไป โจโฉสังเกตเห็นฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับตระกูลสุมา
กุยแกแนะนำให้โจโฉปล่อยเรื่องสุมาอี้ไปก่อนเพื่อแสดงความจริงใจต่อฮ่องเต้
----------
สุมาอี้ไม่พอใจหยางผิงอย่างมากที่เข้าข้างโจโฉ จึงบอกตัดความสัมพันธ์
หลังจากนี้เขาจะหันหลังให้ราชสำนัก และพาถังอิงไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
หยางผิงจะต้องดิ้นรนด้วยตัวเองในราชสำนัก
ถึงอย่างนั้นหยางก็ยังตามมาส่งจ้งต๋าที่ประตูค่ายอยู่ดี
หลังสุมาอี้จากไป
โจผีเข้ามาคุยกับหยางผิง
โจผี "จ้งต๋าไปแล้ว"
หยางผิง "เขาไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าไม่มีสิทธิรั้งเขาไว้"
โจผี "ข้ารู้เขาไปก็เพื่อท่าน"
หยางผิง "ข้ารู้
ว่าจุดยืนเรานั้นต่างกัน แต่ข้าจะไม่ลืมที่เจ้าเคยช่วยข้า"
----------
หลังจบศึกที่กัวต๋อ เมืองใกล้เคียงยอมสวามิภักดิ์โจโฉ โจโฉให้งดเว้นภาษี 1
ปี เป็นการปลอบขวัญราษฎร
(ถ้าดูตามสถานการณ์ในเรื่องจะดูออกว่านี่เป็นความเมตตาจากฮ่องเต้ไม่ใช่โจโฉ)
***หมายเหตุ***
เรื่องย่ออาจมีผิดเพี้ยนบ้างต้องขออภัยนะคะ ส่วนชื่อตัวละครบางตัวเป็นจีนกลางบางตัวเป็นฮกเกี๋ยน ขออ้างอิงไว้ตรงนี้คะ
จีนกลาง (ฮกเกี้ยน)
หลิวผิง/หยางผิง ชื่อรอง อี้เหอ
ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) ชื่อรอง จ้งต๋า
ฝูโซ่ว (พระนางฮกเฮา)
หวังถังอิง (พระสนมถัง พระสนมในหวังเช่าเปี้ยน)
เฉาเชา (โจโฉ) ชื่อรอง เมิ่งเต๋อ
กัวเจีย (กุยแก) ชื่อรอง เฟิ่งเซี่ยน
เฉาพี (โจผี)
เฉาเจี๋ย (โจเจี๋ย พระนางโจเฮา)
หยวนเฉ่า (อ้วนเสี้ยว)
ต่งเฉิง (ตังสิน)
หมันฉ่ง (หมันทอง)
สุนอวี่ (ซุนฮก)
หยางซิว (เอียวสิ้ว)
ฮั่นเซียนตี้ (ฮั่นเหี้ยนเต้) /หวังเช่าเสีย (หองจูเหียบ)/หลิวเสีย //อ้างถึง
หวังเช่าเปี้ยน (หองจูเปียน) /หงหนงหวัง..อ๋องแห่งหงหนง //อ้างถึง
ซุนเช่อ (ซุนเซ็ก) //อ้างถึง
หลี่ปู้ (ลิโป้) //อ้างถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น