เรื่องย่อ ตำนานลับสามก๊ก (6/8) : เชื่อมั่นในกันและกัน จงต๋าและอี้เหอ : ลกเอี๋ยง

ประมาณตอนที่ 39-43

หลังการตายของกุยแก โจโฉปล่อยข่าวว่าในลกเอี๋ยงมีแต่โรคระบาด และจู่โจมขึ้นเหนืออย่างรวดเร็ว ไม่ให้ทันตั้งตัว
พันหยางรู้จึงรีบติดตามหมายจะปลิดชีวิตโจโฉ แต่โจผีมาขวางไว้ ทำให้พันหยางรู้ว่าโจผีใช้เพลงกระบี่ตระกูลหวัง ทำให้โจโฉเกิดสงสัยขึ้นมาโจผีบอกกับโจโฉว่าเขาแอบเรียนรู้เพื่อนำมาใช้ปกป้องบิดาแต่โจโฉก็ไม่ได้วางใจที่ลูกชายเขาแอบทำอะไรลับหลัง
---------
ในเมืองเหลือเพียงโจสิด โจเจี๋ย ดูแลคุ้มครองฝ่าบาทและฮองเฮา
หยางผิงพบพันหยางกับชาวบ้าน จึงชวนให้พันหยางไปพักภายในเมืองลกเอี๋ยง

หยางซิว เห็นเป็นโอกาสทำลายโจโฉ รีบติดต่อกับเผ่าเซียนเป่ย ให้โจมตีเมืองลกเอี๋ยง

หยางผิงให้ ทหารน้อย (คนเดิมคนนั้นที่หยางผิงเคยไว้ชีวิต) กับทหารอีกสองคน ลอบออกจากเมืองไปแจ้งข่าวแกโจโฉ

โจเจี๋ยเปิดดูจดหมายที่กุยแกทิ้งไว้ให้เมื่อเมืองถูกโจมตี เขาบอกไว้ว่าเขาทิ้งข้อความให้โจโฉมุ่งขึ้นเหนือไม่ต้องย้อนกลับมาช่วยลกเอี๋ยง
ทหารเซียนเป่ย มาท้าทายถึงประตูเมือง จับตัวทหารน้อยสามคนที่ลอบไปส่งข่าว ใส่เครื่องดีดทำลายกำแพงเมืองทีละคน ให้มาตายต่อหน้าหยางผิงที่กำแพงเมือง ในท้ายที่สุดหยางผิงก็ต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำ สิ่งที่สุมาอี้เคยสอนเขา "ต้องฆ่าคนเพราะเมตตา"


เมื่อไม่สามารถจะหาทหารคนใดที่มีความสามารถลอบออกจากเมืองไปขอทัพเสริมจากภายนอกเมืองได้ หยางผิงจำต้องให้พันหยางช่วย หยางผิงบอกกับโจสิดว่า ที่พันหยางช่วยเหลืออ้วนเสี้ยวก็เพราะมีเพียงความแค้นกับโจโฉเมื่อครั้งที่โจโฉยกทัพไปสีโจวและกวาดล้างคนทั้งเมือง ดังนั้นพันหยางคงจะไม่อยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่ลกเอี๋ยงอีกครั้ง
พันหยางฝ่าทหารเซียนเป่ย ไปถึงเมืองสวี่ตูแจ้งข่าวแก่ซุนฮก แต่ไม่มีตราประทับจากโจโฉ ซุนฮกไม่กล้าสั่งทหารออกไป
---------
หยางผิงเดินตรวจทหารตามกำแพงเมือง รับรู้ได้ถึงความกังวลของทุกคน ทั้งข่าวการเสียชีวิตของกุยแกก็ยิ่งทำลายขวัญและกำลังใจของทุกคน ฮองเฮาพลอยกังวลไปด้วย แต่หยางผิงบอกให้ฮองเฮาคลายกังวลเพราะเขาเชื่อว่าสุมาอี้ต้องช่วยได้แน่
ฮองเฮา "สุมาอี้เป็นเพียงบัณฑิต เป็นเพียงคนธรรมดาจะทำสิ่งใดได้"
หยางผิง "ตอนอยู่เยว่เฉิง ข้าเองก็เป็นเพียงสามัญชน ยังทำเรื่องอะไรได้ตั้งมากมาย"
ฮองเฮา "ห่างไกลถึงพันลี้ ท่านยังโออวด ภูมิใจ และเชื่อมั่นในตัวเขา"
หยางผิง "ฮองเฮาท่าทางเจ้าหึงหวงนะ...ข้าเห็นที่เยว่เฉิง ท่านกับเขาออกจะเข้ากันได้ดี รวมตัวกันตำหนิข้าด้วยซ้ำไป"
---------
สุมาอี้ทำตราประทับปลอมและอาสาจะนำพาเหล่าทหารไปเอง ความผิดทั้งหมด (ตั้งแต่แสร้งเป็นอัมพาตจนทำตราประทับปลอม) สุมาอี้จะได้เป็นผู้รับไว้คนเดียว
ชุนเหยี่ยนมีความสงสัยในความสัมพันธ์ของ สุมาอี้และฮ่องเต้
ชุนเหยี่ยน "ท่านเพียงเคยร่วมมือกันที่เยว่เฉิง เหตุใดจึงกล้าช่วยเหลือฝ่าบาทจนไม่ห่วงแม้ชีวิตของตัวเอง"
สุมาอี้ยิ้มและกล่าวว่า "ข้าคงเคยติดหนี้เขาไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว"
---------
ที่ลกเอี๋ยง โจสิดจะเป็นผู้นำทหารปกป้องเมืองไว้ และพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฝ่าบาทหนี แต่หยางผิงไม่ยินยอม เมื่อเหล่าทหารขาดขวัญและกำลังใจ ฮองเฮากับโจเจี๋ยช่วยกันทำฉลองพระองค์จากอุปกรณ์ที่หาได้ (เช่นเม็ดหินสีขาวแทนลูกปัดในฉลองพระองค์)
ก่อนวันเปิดศึก หยางผิงแสดงตัวเป็นฮ่องเต้เพื่อพูดปลุกใจเหล่าทหารในเมือง หยางผิงจะร่วมรบกับโจสิด โจสิดนำชุดเกราะใหม่ของตนเองมาถวายฝ่าบาท หยางผิงกล่าวแก่โจสิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นเพียงสถานการณ์พาไปมิใช่เต็มใจจะแสดงตัว โจสิดบอกแก่ฝ่าบาทว่าแม้ว่าในตอนแรกฟังจากที่โจโฉและโจผีเล่าถึงฮ่องเต้ เขาจะระแวงสงสัย แต่หลังจากได้อยู่ร่วมกับฝ่าบาทมาร่วมเดือน เขานั้นเชื่อใจพระองค์ด้วยบริสุทธิ์ใจ  เมื่อโจสิดมีความจริงใจ หยางผิงเองก็เต็มใจจะร่วมรบกับโจสิดเฉกเช่นพี่น้อง
---------
ในคืนก่อนเปิดศึก หยางผิงเตรียมสุราอาหาร
ฮองเฮา "ท่านกลัว ว่าหลังจากพรุ่งนี้แล้ว จะไม่ได้มีวันแบบนี้อีกแล้วใช่มั้ย"
หยางผิง "ข้า...อาจจะปกป้องเจ้าไม่ได้อีก...ในฐานะสามี...จากนี้ไปไม่อยากให้เจ้าใช้ร่างกายเป็นเกราะป้องกันตัวเองอีก..."
ฮองเฮา "จากวันนี้เรา...จะเป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วใช่มั้ย.."
(อิอิ...)
โจเจี๋ยบังเอิญได้มาเห็นทั้งคู่มีความรักจริงใจต่อกัน จึงได้แต่แอบไปเสียใจเพียงลำพัง

(ตอนที่ 41)
เช้าวันรุ่งขึ้นทัพเผ่าเซียนเป่ยบุกมาหน้าประตูเมือง เปิดฉากโจมตีกำแพงเมืองอย่างรุนแรง จนกระทั่งทัพเสริมมาถึง โจสิดจะนำทหารไปตีกระหนาบทัพเซียนเป่ย แต่หยางผิงมีอีกแผนหนึ่งจึงนำทหารลงไปต่อสู้กับทัพเซียนเป่ยด้วยตัวเอง จนกระทั่งถูกล้อมไว้
บนกำแพงเมืองโจสิดจะลงไปช่วยฝ่าบาทแต่ฮองเฮาห้ามไว้
ฮองเฮา "หน้าที่ของท่านคือป้องกันกำแพงเมือง!!!"

ในสนามรบ หยางผิงถูกทัพเซียนเป่ยล้อมไว้รอบด้านไม่มีทางหนี สุมาอี้นำกองหนุนมาเสริมพอดี
หยางผิงสั่งให้จับเป็นเคอปี้เหนิงผู้นำเซียนเป่ย
สุมาอี้ "เจ้านี่อายุยืนนักหนะ"
หยางผิง "สุมาอี้ไม่อาจทนให้ประเทศขาดกษัตริย์ได้ ไหนเลยจ้งต๋าจะทอดทิ้งอี้เหอ"
---------
พันหยางนำทหารอีกกองหนึ่งติดตามเคอปี้เหนิงไป โจผีที่นำทหารห้าพันย้อนกลับมาช่วยมาพบเข้า โจผีสบโอกาส บอกทหารของตนว่าพันหยางคือคนที่บุกมาลอบสังหารโจโฉ ให้ทหารผู้นี้ลอบฆ่าพันหยางจากด้านหลัง ส่วนโจผีเป็นผู้สังหารเคอปี้เหนิง
ทหารจับคนของเซียนเป่ยมา หยางผิงให้ทางเลือกแก่เซียนเป่ย หยางผิงจะให้น้องชายของเคอปี้เหนิงขึ้นคุมเผ่าแทน ให้เซียนเป่ยยอมอยู่ใต้จักรวรรดิฮั่น จะไม่มีการติดตามฆ่าล้างเผ่า แต่เผ่าเซียนเป่ยจะต้องไม่สร้างความวุ่นวายแก่ฮั่นอีก
สุมาอี้ "เจ้าใช้ทั้งพระเดชและพระคุณได้ดี"
หยางผิง "ขอบคุณท่านที่ชี้แนะ"
สุมาอี้ "หลายวันมานี้ข้าคิดมาตลอด เจ้าไม่เต็มใจในการจะคร่าชีวิต แล้วจะเปิดศึกกับข้าศึกที่ล้อมไว้ได้อย่างไร"
หยางผิง "ข้าคิดว่าจะไม่ฆ่าเพื่อรักษาคุณธรรม แต่นั่นเป็นเพราะมีท่านคอยปกป้อง เวลานี้ข้าได้เป็นสงครามที่แท้จริงแล้ว"
สุมาอี้ "โลกนั้นกว้างใหญ่ ข้าไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ตลอด"
การสนทนานี้อยู่ในสายตาโจผีตลอด โจผียิ่งอิจฉาฮ่องเต้ที่มีคนเก่งอย่างสุมาอี้คอยช่วยเสมอ
---------
สุมาอี้ไปเคารพศพกุยแก
สุมาอี้ "ไม่คิดเลยคนที่ข้ากลัวมาตลอดจะต้องมาตายในที่กันดารอย่างนี้"
หยางผิง "กุยแกนั้นมีความหวังที่จะร่วมมือกับข้าและโจโฉรวบรวมแผ่นดิน แผนของข้าคือจะร่วมมือกับโจโฉก่อน แม้ว่าตอนนี้โจโฉจะอายุมากแล้ว แต่โจผีก็มีความสนิทสนมกับเรา ไม่ใช่เหรอ"
สุมาอี้ "เจ้าคิดจริงๆ เหรอว่าโจผีจริงใจ   แล้วเจ้าคิดไหมว่าจอมยุทธอย่างพันหยางจะมาตายเพราะทหารน้อยผู้หนึ่ง เป็นไปได้เหรอ"
หยางผิง "แต่โจผีไม่ได้มีความแค้นอะไรกับพันหยาง"
สุมาอี้ "อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่เจ้ามาลกเอี๋ยง เริ่มมีกลิ่นไม่ดี ตั้งแต่หวังเยว่บุกมาลอบสังหารเจ้า เซียนเป่ยเข้าโจมตีลกเอี๋ยง และพันหยางตายอย่างไม่สมเหตุสมผล พูดง่ายๆ ก็คือมีใครบางคนหวังให้เจ้าและโจโฉตาย"
หยางผิง "นี่คงจะไม่ใช่หยางซิว?"
สุมาอี้ "ข้ายังไม่มั่นใจ แต่คนที่จะได้ประโยชน์จากการตายของเจ้าและโจโฉ ก็คือทายาท เจ้าไม่มีบุตร ดังนั้น ก็ต้องเป็นบุตรของโจโฉ โจผี โจสิด และหยางซิว ไม่ผิดไปจากนี้แน่"
หยางผิง "แต่..ไม่น่าจะใช่โจผี"
สุมาอี้ "นั่นเป็นเพราะ เจ้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ"
---------
สุมาอี้วางแผนร่วมกับแม่ทัพเกาหลานและฮองเฮา เพื่อจะยึดเมืองลกเอี๋ยงและกำจับทายาทตระกูลโจ แต่หยางผิงรู้และมาขัดขวางเอาไว้
สุมาอี้ "เป็นฝูโซ่วใช่ไหมที่บอกเจ้า นางอยู่กับเจ้ามากจนโง่ตามเจ้าไปแล้ว"
หยางผิง "เวลานี้ไม่ใช่เวลามากำจัดตระกูลโจ ที่สำคัญกว่าคือปวงประชาและแผ่นดิน"
สุมาอี้ "เจ้าทำให้ข้าและตระกูลต้องมาเสี่ยงไปด้วย ที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเจ้า นี่เจ้าจำไม่ได้แล้วหรือว่าตระกูลสุมาเป็นผู้เลี้ยงดูเจ้ามา!"
หยางผิง "หากข้าต้องฆ่าพวกเขาด้วยเหตุนี้ ข้าจะต่างอะไรจากโจโฉ"
สุมาอี้ "แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ"
---------
ฮองเฮารำพึงกับตัวเอง "ฝ่าบาท หม่อมฉันทำผิดรึเปล่า ท่าน..อยู่บนสวรรค์คงกำลังตำหนิข้า"
---------
ข่าวลือการได้ชัยชนะจากแดนเหนือ พูดไปต่างๆ นานาว่าการรบครั้งนี้ฮ่องเต้ไปรบด้วยตนเอง...
หยางผิงพูดกับโจโฉไม่ให้เอาความสุมาอี้ที่แสร้งอัมพาตและใช้คำสั่งปลอมยกทหารไปช่วยฝ่าบาทที่ลกเอี๋ยง แต่พอกลับเข้าสวี่ตูโจโฉกลับจับสุมาอี้ ไป
โจผีต่อรองกับสุมาอี้เพื่อให้สุมาอี้ยอมเปลี่ยนมารับใช้ตัวเอง 
ถังอิงคิดที่จะบุกคุกเพื่อช่วยสุมาอี้ฮองเฮาช่วยเตรียมการหนี แต่ถังอิงกลับเปลี่ยนใจ 
หยางผิงคิดใช้อำนาจฮ่องเต้จัดการปัญหานี้
ในท้องพระโรงขุนนางแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้เห็นแก่ความชอบที่สุมาอี้ไปช่วยรบที่ลกเอี๋ยง อีกฝ่ายหนึ่งให้ลงโทษ 
ถังอิงเข้าท้องพระโรงมาในฐานะถังหวังเฟย นางเกลี้ยกล่อมให้ขุนนางทั้งหลายเห็นด้วยกับการไม่ลงโทษสุมาอี้ แม้อาจจะทำให้ขุนนางสงสัยในความสัมพันธ์ของนางกับสุมาอี้ แต่ก็ถือว่าการกระทำนี้ช่วยสุมาอี้ออกจากคุกมาได้ นอกจากนั้นหยางผิงยังเลื่อนตำแหน่งโจโฉให้สูงขึ้นอีก ในราชโองการปล่อยตัวสุมาอี้ ยังบังคับให้สุมาอี้ต้องเป็นขุนนางในสังกัดของโจผีด้วย หยางผิงคิดจะให้โจผีปกป้องสุมาอี้
แม้ว่าสุมาอี้จะออกจากที่คุมขังมาได้แต่เขาก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจของหยางผิงเท่าไหร่นัก หยางผิงจึงตอบแทนเขาด้วยการยกห้องบรรทมให้สุมาอี้ได้เข้าหอกับถังหวังเฟย

หยางผิงโน้มน้าวซุนฮกให้วางใจในตัวเขา
หยางผิง "เราควรปล่อยวางความแค้นส่วนตัวในอดีต ร่วมมือกัน ทำให้แผ่นดินสงบสุข"
ซุนฮก "ท่านเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก..."

หยางผิงคิดโน้มน้าวใจโจโฉด้วยการยืมคำพูดจากกุยแก
กุยแกไม่ได้คิดเพียงหนึ่งตระกูลหรือหนึ่งสกุล แต่คิดถึงใต้หล้าและปวงประชา
โจโฉ "กุยแกเคยบอกให้ข้ารวบรวมดินแดนทางเหนือ ครั้งนี้ท่านจะสนับสนุนข้ารวบรวมดินแดนทางใต้?"
หยางผิง "ข้ารับรองท่านว่าในสวี่ตูจะไม่มีเรื่องวุ่นวาย"
โจโฉ "ฝ่าบาทชมชอบกุยแกยิ่งนัก ฝ่าบาทน่า่จะรู้ว่ากุยแกไม่เคยผิดพลาด เพื่อให้สงบสุขไปอย่างน้อย 20 ปี มีความคิดหนึ่งที่กุยแกเคยบอกท่านไว้" (ให้ฝ่าบาทปลดฮองเฮาและแต่งงานใหม่กับโจเจี๋ย)
หยางผิง "ในเรื่องนี้ ต่อให้เป็นกุยแกมาพูดเอง ข้าคงจะให้ไม่ได้"
โจโฉ "ฝ่าบาทรู้อะไรมั้ย ครั้งหนึ่ง...ท่านไม่ได้พูดแบบนี้" (เดาว่าโจโฉน่าจะเคยพูดเรื่องนี้กับหลิวเสีย)

เจี้ยงอันปีที่ 13 โจโฉยกทัพไปแดนใต้
----------
***หมายเหตุ***
เรื่องย่ออาจมีผิดเพี้ยนบ้างต้องขออภัยนะคะ ส่วนชื่อตัวละครบางตัวเป็นจีนกลางบางตัวเป็นฮกเกี๋ยน ขออ้างอิงไว้ตรงนี้คะ
จีนกลาง (ฮกเกี้ยน)
หลิวผิง/หยางผิง ชื่อรอง อี้เหอ
ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) ชื่อรอง จ้งต๋า
ฝูโซ่ว (พระนางฮกเฮา)
หวังถังอิง (พระสนมถัง พระสนมในหวังเช่าเปี้ยน)
เฉาเชา (โจโฉ) ชื่อรอง เมิ่งเต๋อ
กัวเจีย (กุยแก) ชื่อรอง เฟิ่งเซี่ยน
เฉาพี  (โจผี)
เฉาเจี๋ย (โจเจี๋ย พระนางโจเฮา)
หยวนเฉ่า (อ้วนเสี้ยว)
ต่งเฉิง (ตังสิน)
หมันฉ่ง (หมันทอง)
สุนอวี่ (ซุนฮก)
หยางซิว (เอียวสิ้ว)
ฮั่นเซียนตี้ (ฮั่นเหี้ยนเต้) /หวังเช่าเสีย (หองจูเหียบ)/หลิวเสีย //อ้างถึง
หวังเช่าเปี้ยน (หองจูเปียน) /หงหนงหวัง..อ๋องแห่งหงหนง //อ้างถึง
ซุนเช่อ (ซุนเซ็ก) //อ้างถึง
หลี่ปู้ (ลิโป้) //อ้างถึง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น