จางเจียเจี้ย ตอนที่ 5 - เมืองฉางซา - กทม.

ช้าวันนี้เราก็ชิวๆ คะ เก็บข้าวของแล้วไปหาอาหารเช้าเอาข้างหน้า สไตล์เดิมๆ 555


เราเห็นแผงลอยเล็กๆ ในตรอกใกล้ๆ โรงแรมมีวันลอยฉุยๆ มีคนมุงๆ ก็มุ่งไปเลยคะ
อาหารเช้าสุดแสนจะคลาสสิค ซาลาเปา เกี๊ยว แป้งทอด และน้ำเต้าหู้ ราคาย่อมเยา


ถึงทางเชื่อมสถานีรถไฟไปสนามบิน โผล่ขึ้นมาแบบว่า...ไปไม่ถูกเลยมันหย่ายยยยย มันเวิ้งว้างงงง มันต้องไปทางไหนเนียะ
แต่คือสถานที่มันดูดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะ

.
ทางที่เราโผล่ขึ้นมา

ภาพด้านนอกสถานี
ดูความเวิ้งว้างของมัน...เราเดาว่าช่วงเทศกาลอะไรของเขาคนอาจจะนั่งรอรอบรถไฟกันเต็มพื้นที่ก็เป็นได้


การจะไปสนามบินนั้น...มองหาป้ายเขียนว่า.. Maglev Express (ตามป้ายคือเลข3) ไปตามป้ายเลยจ้า
รถไฟใหม่เอี่ยมอ่องเลย
มาถึงสนามบินมองหาป้าย INTERNATIONAL อยู่นานมากๆ มีแต่เคาน์เตอร์เช็คอินภายในประเทศ ก็เดินไปเรื่อยจนเจอประชาสัมพันธ์ เขาก็ชี้ไปเคาน์เตอร์ท้ายสุด เคาน์เตอร์ D

แต่ละเคาน์เตอร์ ภาษาาจีนทั้งน้านนนน

โหววว....กว่าจะเจอ

เคาน์เตอร์เช็คอินต่างประเทศ-ฮ่องกง-มาเก๊า

ระหว่างรอเวลากลับไทยเจอแก็งค์ทัวร์ไทย (หลังจากไม่เจอคนไทยมา 3-4 วัน ดีใจๆ) หมวกแดงทั้งแกงค์เลยจ้าา สาวน้อยทั้งแกงค์ ^^



จบทริป ถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ...เจอกันทริปหน้า...ถ้าเป็นไปได้นะ^^

จางเจียเจี้ย ตอนที่ 4 - เมืองจางเจียเจี้ย - เทียนเหมินซาน

เช้านี้ลงมาที่ล้อบบี้ปุ๊บเจอรถคุณร็อคกี้พร้อมแล้วที่หน้าโรงแรม คุณร็อคกี้มีบริการไปส่งที่ทางเข้าเทียนเหมินซานให้ฟรี และซื้อตั๋วเข้าชมเทียนเหมินซานในราคาที่ถูกกว่า
ทางขึ้นเทียนเหมินซานอยู่ในเมืองจากเจียเจี้ย ไม่ไกลจากสถานีรถและโรงแรมมากนัก เราจะเห็นกระเช้าห้อยโยงไปทางภูเขาได้จากในเมืองเลย

ราชรถมาเกย ^^
Yiyaqin Hotel



ก่อนเข้าเท่ียนเหมินซาน รอคอยตั๋วจากคุณร็อคกี้

เรารีบไปแต่เช้าเพราะเคยเห็นรีวิวที่มีคนรอคิวเป็นชั่วโมงกว่าจะได้ขึ้นกระเช้า และกลุ่มของเราโชคดีที่มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งพอพูดภาษาจีนได้ เราเลยได้เข้าไปด้านในเร็วหน่อย



แพลนในการเข้าชมคือเราเริ่มจากการนั่งกระเช้า เที่ยวชมบนเขา ทางเดินกระจก วัดเทียนเหมิน เดินลงประตูสวรรค์ (เทียนเหมิน) มานั่งรถบัสผ่าน 99 โค้ง ลงจากเขา

มุ่งหน้าสู่เทียนเหมินซาน
โน่นๆ เห็นประตูสวรรค์แล้ว ^^

หันไปมองข้างล่างอย่างเสียวอ่ะ เห็นเมืองจากเจียเจี้ยไกลๆ 
ลงจากกระเช้าละ
ตอนต่อคิวขึ้นกระเช้าคนก็เยอะจริงๆ เพื่อนร่วมกระเช้าของเราน่าจะเป็นนักศึกษา ดีที่ไม่ทะโมนก็นั่งชมวิวกันไป วิวสวยมากๆ และได้นั่งกระเช้านานมากๆ คุ้มมาก
เห็นระเบียงคอนกรีตที่เกาะอยู่ขอบผาไหม นั่นแหละที่เราจะเดินไป Fighting!!



แม้ว่าเรานั้นจะมั่นใจมากๆ ว่าไม่ได้กลัวความสูง แต่พอได้สัมผัสระเบียงทางเดินตามขอบผาด้วยตัวเองนั้น...อดที่จะใจสั่นหวั่นไหวไม่ได้เลยจริงๆ
มาคิดๆ ดูตอนที่เขาก่อสร้างไอ้ทางเดินพวกนี้ เขาทำยังไงกันนะ!? วางไม้แบบยังไง ขนอุปกรณ์ยังไง?



พร้อมจ้า
ก่อนจะเดินระเบียงกระจก ต้องเสียเงินเพิ่มคนละ 5 หยวน คุ้มไม่คุ้มไม่รู้แต่ก็ต้องลอง ตามทางเดินที่เกาะขอบผา จะมีทางเดินอีกทางที่คู่ขนานกันไปแต่จะอยู่ลึกเข้าไปในพื้นดิน สำหรับคนที่ไม่ต้องการสัมผัสความเสียวก็เลือกเดินทางนั้นได้
รองเท้าผ้าสำหรับเดินผ่านระเบียงกระจก


มองลงไปที่ถนน 99 โค้ง 
เอาเข้าจริงมาอยู่จุดนี้คือกลัวมาก ด้วยความที่มันไม่มีอะไรอยู่ใต้เท้าเราเลย และอากาศมันก็หนาว มือก็เย็น ใจก็สั่น จะถ่ายรูปจะเซลฟี่อะไร คือเกร็งมากๆ กลัวกล้องตก กลัวผีผลัก!! กลัวๆๆๆ ><



ชมวิวและถ่ายรูปกันไปไม่ต้องรีบร้อนๆ
อาซิ่มอาม่าแกไม่มีความกลัวเลยซักนิด
เดินไต่ขอบผาไปเรื่อยก็มาถึงจุดที่เป็นวัดเทียนเหมิน วัดมหายาน เข้าไปสักการะซักหน่อย สวดอะไรไม่ได้ก็อธิษฐานเป็นภาษาไทยนี่แหละหวังว่าท่านพระโพธิสัตว์และเหล่าท่านเทพจะเข้าใจ


 



จากวัดเทียนเหมิน นั่งกระเช้าห้อยขาขึ้นไปบนจุดสูงสุดของภูเขา จะมีศาลาแปดเหลี่ยมลักษณะคือสร้างยังไม่สมบูรณ์ดี ตรงจุดนี้จะมีร้านอาหาร ของทานเล่น  นั่งกินไปชมวิวไปได้คะ จากตรงนี้จะมีลิฟต์สำหรับขึ้ืนลง จากจุดที่เราลงกระเช้าตอนช่วงเช้า หรือเราจะเดินเท้าลงไปก็ได้ 



พอลงมาถึงจุดลงกระเช้าตอนเช้า เราต้องเดินไปอีกทางเพื่อไปประตูสวรรค์ 

ทางเดินก่อนไปถึงประตูสวรรค์
ใครมีแรงหรืออยากชมวิวอีกจุดนึง บนยอดนั้นก็มีทางเดินขึ้นไปให้ชมวิวกันอีกนะ


ที่ประตูสวรรค์ บัตรเข้าอุทยาน ให้เราลงบันไดเลื่อนฟรีได้ 1 ชั้น ส่วนชั้นต่อไป บันไดเลื่อนจะลงคู่ขนานกันไปกับบันไดประตูสวรรค์ และต้องเสียเงินเพิ่ม เราเลยต้องลงด้วยบันไดประตูสวรรค์ซึ่งชันมากๆ ลูกนอนมีขนาดเล็กกว่าเท้าเรา เป็นการลงบันไดที่เสียวไส้อีกแล้ว
มันชันจริงๆ นะ เห็นรถบัสจอดเรียงๆ กันอยู่ตรงโน้น


ประตูสวรรค์
เห็นเมืองทั้งเมืองเลย เราขึ้นมาสูงมากๆ




ลงมาถึงข้างล่างจุดธูปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อย ก็ต้องเติมพลังคะ เกี๊ยวน้ำ ราคาน่าจะ 15-25 หยวน จำไม่ได้ซะละ แต่อร่อยคะ อาจจะมันกว่าบ้านเรานิดหน่อย


ขาลงก็นั่งรถบัสลงไปตามเส้นทางคดเคี้ยวนี้แหละ -*- ใ่ช้เวลาประมาณ 45 นาที (ภาพถ่ายจากระเบียงกระจก)

ลงจากเทียนเหมินซานเราก็กลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วไปสถานีขนส่ง หารถบัสไปเมืองฉางซา

จริงแล้วจากจากเจียเจี้ยไปฉางซาเราสามารถไปโดยรถไฟได้คะ ซึ่งสถานีก็อยู่ใกล้กันกับสถานีรถบัส 
แต่น่าจะต้องจองก่อน เราเอาสะดวก ก็เลยกลับรถบัสเหมือนขามา

สถานีขนส่งจางเจียเจี้ย

ลานหน้าสถานีขนส่ง


รถไฟใต้ดินเส้นสีฟ้า ตัดผ่านสถานีรถบัสตะวันตก-ถนนคนเดิน (สถานีอู่ยี) และจุดขึ้นรถไฟไปสนามบิน

ถึงฉางซา เราเดินทางไปโรงแรมโดยรถไฟใต้ดิน ลงที่สถานีอู่ยี ตัวสถานี และถนนคนเดิน อยู่ใกล้กัน เราก็เลยเลือกจะพักโรงแรมในละแวกนี้ สำหรับโรงแรม ไม่ได้ดีมากมาย ธรรมดาๆ เลือกเพราะสะดวก ที่ไม่ดีคือพนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยคะ ต้องใช้แอปแปลภาษาช่วย

ทางเข้าถนนคนเดิน
ร้านกาแฟคนเยอะมากเลยไม่ได้ลอง
ร้านขายของฝากกระจุกกระจิก ของเหมือนๆ บ้านเรา
บรรยากาศถนนคนเดิน
อันนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไร ข้างในเป็นไอติม ข้างนอกเป็นขนมปังกรอบ อร่อยๆ
ถนนคนเดิน
ขนมไทยไปไกลถึงต่างแดน
พริกสดดอง มั้ง?? เห็นขายเยอะมากเหมือนเป็นโอทอปประจำจังหวัดเลย
ง่วงแล้วนะกลับ โรงแรมนอนกันเถอะ ^^