ไหว้พระ...อุทัยธานี

เรากำลังจะเริ่มทำ New challange หรืออีกนัยหนึ่งคือพยายามสร้าง Inspiration ให้กับตัวเอง แม่เราชอบไปไหว้พระ วันหยุดเราไม่มีอะไรทำ เราเลยตั้งใจว่า จะออกเดินสายไหว้พระ ให้ครบทุกจังหวัดในประเทศไทย และจะเอามาเล่าที่ไหนซักที่ อยากจะรีวิวแต่ก็คงไม่ได้เก็บรายละเอียดไว้ขนาดนั้น ฉันนั้นวันนี้เราจะเริ่ม กันที่อุทัยธานี...
20190713...
เช้าวันเสาร์เราตื่นสาย กว่าจะอาบน้ำทำโน่นนี่ก็ปาไป 10 โมงแล้ว แน่นอนว่าวันนี้ no plan ยังไม่รู้จะทำอะไร แต่ยังไงไม่รู้หวยไปตกที่ "อุทัยธานี" 
เริ่มต้นที่วัดดัง วัดท่าซุง

วัดท่าซุง วัดที่มีชื่อเสียงและงดงามของเมืองอุทัยธานี วัดท่าซุง จริงแล้วเป็นวัดเก่าแก่ ที่สร้างตั้งแต่สมัยโดย หลวงพ่อใหญ่องค์แรก เป็นผู้สร้างวัดแต่วัดเริ่ม พัฒนาและเป็นที่รู้จักเมื่อพระราชมหาวีระ ถาวาโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พระเถระที่มีชื่อเสียง ได้สร้างอาคารต่าง ๆ มากมาย เช่น พระอุโบสถใหม่ภายใน ประดับและตกแต่งอย่างวิจิตร บานหน้าต่างและประตูด้านในเขียนภาพเทวดา โดยจิตรกรฝีมือดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมา ตัดลูกนิมิตพระอุโบสถแห่งนี้ บริเวณโดยรอบสร้างกำแพงแก้ว และมีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้ามณฑป และ พระวิหารแก้วที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง และร่างของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย

ถึงวัดประมาณบ่ายสอง ใช้เวลาขับรถมาประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ตาม Google map ช่วงรังสิตนวนคร รถค่อนข้างติด

http://www.danpranipparn.com/web/map.php
ลานจอดรถของวัด และองค์พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 1 , 5 , 6, 7 
ทางเข้าวิหาร (หมายเลข 1 ในแผนที่)
พระประธานในวิหาร พระพุทธรูปจำลอง พระพุทธชินราช
ภายในวิหาร
ขับรถอ้อมมาด้านหลังวิหาร ประมาณ 1 กม. จะถึงประสาททองคำ


ปราสาททองคำ (หมายเลข 25)
จากวัดท่าซุงเราจะไปต่อที่วัดเก่าแก่ วัดอุโปสถาราม หรือ วัดโบสถ์มโนรมย์ ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดโบสถ์ตามประวัติเล่าว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2325 ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง
พระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยปางมารวิชัย ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างหลวง เขียนในสมัยรัชกาลที่ 3 ตอนปลาย แล้วเสร็จในต้นสมัยรัชกาลที่ 4


พระพุทธรูปภายในพระอุโบสถหลังเล้ก
มณฑปแปดเหลี่ยม ศิลปะผสมไทย - จีนและตะวันตก มีลายปูนปั้นพระพุทธรูปปางถวายเนตรล้อมด้วยพรรณพฤกษา หงส์และนกกระสา มณฑปแห่งนี้ หลวงพิทักษ์ภาษา(บุญเรือง พิทักษ์อรรณพ) ตั้งใจสร้างถวายให้พระครูอุไทยทิศธรรมวินัยซึ่งภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็น พระสุนทรมุนี (จัน) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีสำหรับจำพรรษา เมื่อพระ-สุนทรมุนีมรณภาพ จึงใช้เป็นที่ประดิษฐานอัฐิพร้อมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของท่าน นับเป็นโบราณสถานที่มีค่าทางจิตใจของชาว อุทัยธานี

 สี่โมงครึ่งแล้วแดดยังไม่ร่มลงซักนิดเลย เราจะไปชมวิวบนยอดเขาสะแกกรังกันต่อ ที่วัดที่สาม วัดสังกัสรัตนคีรี ส่วนตัวเราไม่ทรามข้อมูลอะไรมากนัก เข้าใจว่าวัดตั้งอยู่บนยอดเขา 
จึงมุ่งขึ้นไปที่ยอดเขาสะแกกรังเลย แต่ทางเข้าวัดจริงๆ อยู่ด้านล่างคะ และจะมีบันได้เดินขึ้นยอดเขามาประมาณ 400 กว่าขั้น
เป็นโชคดีที่เรางงๆ เลยไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นมาคะ


ทางขึ้นยอดเขา

วิวเมืองอุทัยธานีถ่ายจากบนยอดเขาคะ

เวลาประมาณ 6 โมงเย็นหลังจากไหว้พระและชมวิว ท้องก็เริ่มร้องคะ เราวนลงไปหาอะไรทานที่ตลาดซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำกับวัดอุโปสถารามคะ สะพานนี้เหมือนเป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งคะ แต่รถยนต์ข้ามไม่ได้นะคะ เดินได้และใช้มอเตอร์ไซต์ได้คะ




จบทริปวันนี้ด้วยการเดินถนนคนเดินตรอกโรงยาคะ แต่ไม่ได้ชักภาพมาฝาก
 แผนตอนแรกคิดว่าจะค้างที่อุทัยธานีคะ เพื่อตอนเช้าจะไปต่อที่วัดถ้ำเขาวง และหุบป่าตาด แต่เปลี่ยนใจคะ กลับกทม.เลย ถึงกทม. ประมาณ 21.00 น. ถนนโล่งมากคะ จบทริปนี้ก็ตั้งใจว่าจะมารีวิว จังหวัดอื่นๆ ไปเรื่อยๆ คะ คาดว่าจะได้ครบทุกจังหวัดในประเทศไทยนะคะ 55+