RISE!!! ลุกขึ้นสู้!! <เปิดเผยเรื่องราวบางส่วนของภาพยนตร์ THe dark night rise>





แม้ในตอนจบของไตรภาคอัศวินรัตติกาล ใครหลายๆคนอาจรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมือนโนแลนซักเท่าไหร่ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่า เป็นการปิดเกมที่กำลังดีและสวยงาม...พูดได้สั้นคำเดียวว่า..เยี่ยม..
....the great movie...

ในภาคนี้เป็นผลพวงต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว ฮีโร่ของเมือง ฮาร์วีย์ เดนท์ ตายไปแล้ว แต่ผลงานไม่ได้ตายไปด้วย ผู้คนยังคงชื่นชมในความเป็นอัยการเขต ที่กล้า และยุติธรรม มีเพียง เจมส์ กอร์ดอน ผบ.ตำรวจที่รู้ว่าในท้ายที่สุดนั้น ฮาร์วีย์ เดนท์ ได้สูญเสียอุดมการณ์ที่ดีของตัวเองไปแล้ว (คลายๆกับ อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ ผู้สูญเสีย ตัดสินใจเข้าสู่ด้านมืด^^)

ในขณะที่แบทแมนยังคงถูกกล่าวหา ว่าเป็นผู้สังหาร เดนท์ และเจ้าหน้าที่หลายนาย บรู๊ซ เวย์น ยังคงจมอยู่กับความผิดพลาดที่ช่วย ราเชล คนรักไว้ไม่ได้ และยังต้องผิดหวังกับ เดนท์ 
เขาไม่ออกจากคฤหาสน์ หรือออกมาสู่สังคมภายนอกเลยตลอดเวลา 8 ปี จนกระทั่ง เมื่อแม่บ้านคนหนึ่ง สามารถลักลอบขโมยเอาสร้อยคอออกจากเซฟของเขาเองได้ มันทำให้เขาหันมามองโลกภายนอกอีกครั้ง


นอกจากเขาจะรู้ตัวนางโจร ผู้ขโมยสร้อย และยังว่า การขโมยครั้งนี้ พัวพันกับสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็น บ.เวย์น เอนเตอร์ไพรส หรือเมืองกอธแธม

นางแมวป่า ที่สวมบทโดย แอน แฮทธาเวย์ นั้น  เธอดูสวยสง่า (สมกับที่แสดงเป็นเจ้าหญิงในภาพยนตร์ที่ผ่านๆมาของเธอ)  ดูปราดเปรียวแต่ก็มีกำลังพอจะแอ็คชั่นได้ดี มีบุคลิกที่สมาร์ทและฉลาดพอจะรับบทนี้ และการมีนางแมวป่า ทำให้แบทแมนดูมีชีวิตชีวาอยู่บ้างหลังจาก อกหักซ้ำแล้วซ้ำอีก (อิอิ)

แบทแมน คัมแบคครั้งนี้ เหมือนเป็นการตอบคำถาม ทั้งหมดของชีวิต บรู๊ซ เวย์น
หนังไตรภาพอัศวินรัตติกาล ในแบบฉบับของโนแลนนั้น เหมือนเป็นการเล่าเรื่องชีวิตและความคิดหนักๆ ที่ขัดแย้งกันเองของคนๆ หนึ่ง ที่ต้องทำสองบทบาทในขณะเดียวกัน (จะเห็นได้ว่าใน the dark night นั้น บรู๊ซ เวย์น หลับในที่ประชุมเพราะ มัวเป็นแบทแมนในยามค่ำคืน) สุดท้ายแล้ว บรู๊ซ เวย์น จะเลือกใช้ชีวิตอย่างไร สิ่งไหนที่ต้องการ และนี่เป็นเวลาสมควรแล้วที่ต้องตัดสินใจ (เพราะหลบซ่อนมานาน 8 ปีแล้วนะ) เผชิญหน้าไม่ใช่วิ่งหนีและละทิ้งทุกสิ่ง

อัลเฟรด พ่อบ้านที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวที่บรูซมี ตัดสินใจจากไป  อัลเฟรดหวังเสมอที่จะให้เขามีชีวิตที่ มีความสุขกับครอบครัว และไม่ต้องเป็นคนฝังศพคนตระกูล เวย์น คนที่สาม
บรูซได้เลือกชีวิตใหม่ และลุกขึ้นสู้ อีกครั้ง ดูคล้ายจะเป็นการสู้ครั้งสุดท้าย เขาไม่ได้ทำให้ตัวเองผิดหวัง และ ยังสามารถทำให้ความฝันของอัลเฟรดเป็นจริง


บทร้ายนำใน the dark night rise แน่นอนว่ารู้กันมานานพอสมควรแล้วว่า คือ เบน ชายร่างใหญ่ในหน้ากาก โดยส่วนตัว เห็นครั้งแรกรู้สึกว่า คิดยังไงเลือกผู้ร้ายตัวนี้ ดูยังไงไม่รู้ แค่ตัวใหญ่ๆ แต่แน่นอนว่า โนแลน สามารถ จะผูกเรื่องของ เบน ให้อยู่ในเรื่องราวที่สมควรได้อย่างนึกไม่ถึง ...มีเสียงตินิดหน่อยว่า เบนคนนี้ดูไม่น่ากลัวเท่าที่ควร...
อ่านในนิตยสารภาพยนตร์ เขาว่า ผู้ร้ายใน the dark night หรือโจ๊กเกอร์นั้น เป็นสไตล์ใช้สมอง แต่ใน the dark night rise หรือ เบน เป็นสไตล์ใช้กำลัง แต่ก็อย่างที่บอก โนแลน เขาสามารถจริงๆ เบนไม่ใช่ตัวร้ายบ้าพลัง ที่แค่โผล่มาเพื่อให้แบทแมนตื่นจากการหลับไหล มาต่อสู้อีกครั้ง เท่านั้น แต่เป็นเพราะเบน ทำให้ บรูซ ได้คนพบ วิธีคิด เพื่อลุกขึ้นสู้..อีกครั้ง...

อีกบทบาทหนึ่งที่น่าสนใจและนึกไม่ถึง จนกระทั่งดูไปถึงตอนท้ายของเรื่อง ถึงได้ตะหงิดๆ นิดหน่อย และไอ้ที่ตะหงิดๆ ก็ถูกต้องซะด้วย ...อันนี้ขอไม่บอก อยากให้ได้ชมและลองเดากันเอง คิดว่าเดาไม่ยาก และทำให้รู้เลยว่า โนแลนนั้น นอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านวิธีคิด และบทภาพยนตร์ซับซ้อน ชวนปวดหัวแล้วนั้น เขายังสามารถปูบุคลิก ความคิดของตัวละครได้อย่าง น่าสนใจมากเลยที่เดียว บทบาทที่พูดถึงคือบทของ จอห์น เบลค (รับบทโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) ผู้ช่วย เจมส์ กอร์ดอน บทของ จอห์น เบลค ทำให้ บรูซ ได้มีกำลังใจจะกลับมาอยู่ใต้หน้ากากแบทแมนอีกครั้ง เพราะยังมีอีกหลายๆ คนที่รอคอยและยังมีความหวังในตัวแบทแมนอยู่

<คิดว่าอีกไม่นานเราจะได้ชมผลงานของ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ อีกเรื่อยๆ เพราะผลงานที่ผ่านมาแม้ในแต่ละเรื่องจะไม่ใช่พระเอกแต่ก็ได้รับบทที่สามารถเข้าถึงความทรงจำของผู้คนได้.. เรียกว่าเชียร์เป็นการส่วนตัว^^>

ข้อด้อยของ แบทแมนในแบบฉบับของโนแลนนั้น อาจจะอยู่ที่ ฉากต่อสู้ และอุปกรณ์ต่างๆ ของแบทแมนที่ดูจะอลังการสู้ไอออนแมนไม่ได้ (อิอิ) แต่ด้วยเนื้อเรื่องหนักๆที่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ก็พอจะหยวนๆ ในประเด็นนี้ได้ ในส่วนตัวคิดว่า โนแลนน่าจะชอบเน้นที่แก่น มากกว่าอุปกรณ์ แบทแมนฉบับนี้จึงดูดราม่ากว่าที่เคย คล้ายๆกับสนใจที่จะเสนอแนวความคิด การฝึกฝน คนๆหนึ่ง ให้กลายมาเป็นแบทแมน และใช้อาวุธ ยุทธโธปกรณ์ ต่างๆเป็นส่วนเสริมเท่านั้น 
โนแลนยังทำให้เรารู้สึกว่าแบทแมนนั้นไม่ได้เก่งกาจต่างจากเรานัก (ถ้าไม่นับความรวย) ไม่ใช่สไตล์ที่เอะอะอะไรก็เรียกหาแบทแมน และจะเห็นได้ว่าในหลายๆเหตุการณ์ แบทแมนจำเป็นต้องให้ตำรวจ หรือคนธรรมดาๆ นี่แหละเป็นกองหนุน

the dark night rise ไปถึงจุดที่แตกต่างจากฮีโร่ตัวอื่นๆตรงที่ว่า แบทแมนนั้นสามารถที่จะเป็นเพียงสัญลักษณ์ หรือที่พึ่งทางใจที่จะให้ผู้คนมีกำลังใจ และลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเอง และนี่เอง อาจจะเป็นที่มาของคำว่า "RISE" ในการจบไตรภาคของ..อัศวินรัตติกาล...ก็เป็นได้ ><

The Dark Knight Rises


The Dark Knight Rises

โปสเตอร์ A Fire Will Rise ของ The Dark Knight Rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises



The Dark Knight Rises - Trailer F4 ซับไทย



ตัวอย่างใหม่ The Dark Knight Rises ซับไทย 

ตัวอย่าง  The Dark Knight Rises

The Dark Knight Rises แบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด (Warner Bros.)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Warner Bros.เฟซบุ๊ก ทางการภาพยนตร์ The Dark Knight Rises

กำหนดฉาย : 19 กรกฎาคม 2555
นำแสดง : คริสเตียน เบล, ทอม ฮาร์ดี้, แอนน์ แฮททาเวย์
แนว : Action, Crime, Thriller
กำกับ : คริสโตเฟอร์ โนแลน

          The Dark Knight Rises บทสรุปอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ Batman ไตรภาคของผู้สร้างภาพยนตร์ คริสโตเฟอร์ โนแลน คริสเตียน เบล ผู้คว้ารางวัล Oscar (The Fighter) ที่กลับมารับบทแสดง 2 บทบาททั้ง บรูซ เวย์น / แบทแมน อีกครั้ง 

           ภาพยนตร์ยังแสดงโดย แอนน์ แฮททาเวย์ ผู้รับบทเป็น เซลิน่า ไคล์ ทอม ฮาร์ดี้ รับบทแสดงเป็น เบน มารีออง โกติยาร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar (La Vie en Rose) รับบทแสดงเป็น มิแรนด้า เทต และ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ รับบทแสดงเป็น จอห์น เบลค


the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises


           นักแสดงนำหลักผู้กลับมาร่วมแสดง ได้แก่ ไมเคิล เคน เจ้าของรางวัล Oscar (The Cider House Rules) รับบทแสดงเป็น อัลเฟรด แกรี่ โอล์ดมาน ผู้รับบทเป็นผู้บัญชาการกอร์ดอน และ มอร์แกน ฟรีแมน เจ้าของรางวัล Oscar (Million Dollar Baby) กลับมารับบทของ ลูเซียส ฟ็อกซ์


          สำหรับแบทแมนภาคใหม่นี้ ยังคงได้ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับเจ้าเก่ามาคุมบังเหียนนั่งแทนกำกับเช่นเดิม พร้อมด้วยทีมงานผู้เขียนบทและนักแสดงนำจากภาคก่อน ๆ อีกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน เบล (Christian Bale) ที่กลับมารับบท "บรูซ เวย์น" หรือมนุษย์ค้างคาวอีกครั้ง เช่นเดียวกับ แอนน์ แฮทธาเวย์ (Anne Hathaway) ที่รับบทเป็นนางแมวป่า รวมถึงนักแสดงคนอื่น ๆ อาทิเช่น ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) มาริญง โกติยาร์ด (Marion Cotillard) โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ (Joseph Gordon-Levitt) ไมเคิล เคน (Michael Caine) แกรี่ โอลด์แมน (Gary Oldman) และ มอร์แกน ฟรีแมน (Morgan Freeman)


the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises


          ด้านเนื้อเรื่องที่ทางวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้ปล่อยตัวอย่างออกมานี้ เป็นเรื่องราวของ กอร์ดอน (แกรี่ โอลด์แมน) ที่กำลังนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่บนเตียงคนไข้ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ แบทแมน (คริสเตียน เบล) ที่เคยคิดล้มเลิกการเป็นมนุษย์ค้างคาว ให้กลับมาจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ยังค้างคาอีกครั้ง นอกจากนี้ในตอนท้ายก็มีฉากที่แบทแมนเตรียมเผชิญหน้าสู้กับ เบน (ทอม ฮาร์ดี้) ตัวร้ายของเรื่องด้วยเช่นกัน








           ภาพยนตร์ยังแสดงโดย แอนน์ แฮทธาเวย์ ผู้รับบทเป็น เซลิน่า ไคล์ ทอม ฮาร์ดี้ รับบทแสดงเป็น เบน มารีออง โกติยาร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar (La Vie en Rose) รับบทแสดงเป็น มิแรนด้า เทต และ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ รับบทแสดงเป็น จอห์น เบลค

          เห็นแบบนี้แล้วใครก็ตามที่เฝ้ารอการกลับมาของแบทแมนก็ขอให้อดใจรออีกนิด ชมตัวอย่างที่ทางวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ปล่อยออกมาไปพลาง ๆ เพราะ The Dark Knight Rises นี้มีกำหนดเข้าฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กรกฎาคม 2555 ซึ่งในภาคนี้เป็นบทสรุปอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ Batman
          
          งานนี้กระปุกดอทคอมขอรับรองได้เลยว่า.. คุณจะได้สมหวังกับที่รอคอยมานานอย่างแน่นอน !!






The Dark Knight Rises

The Dark Knight Rises







The Dark Knight Rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

the dark knight rises

ที่มา http://movie.kapook.com/view18297.html










the dark knight rises

แฟน ๆ เตรียมตัวกันให้ดีเพราะ Wolverine กำลังจะกลับมาอีกครั้ง

Wolverine 2

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          ดูท่า Wolverine จะเป็นฮีโร่ดาวเด่นประจำเรื่อง X-Men จริง ๆ เพราะหลังจากมีภาพยนตร์เกี่ยวกับ Wolverine มา แล้วในภาคแรกก็ดูจะประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ผู้กำกับ เจมส์ แมนโกล์ด (James Mangold) จะเอาเรื่องราวของฮีโร่ชื่อดังผู้นี้มาสร้างภาค 2 กันอีกครั้งเพื่อเอาใจแฟน ๆ ทั่วโลกโดยล่าสุด ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ดารานำ ของเรื่องได้เผยผ่านทวิตเตอร์ของเขาออกมาแล้วว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำในประเทศออสเตรเลียและญี่ปุ่นใน เดือนสิงหาคมนี้ ทำให้แฟน ๆ ที่ได้รู้ว่านักแสดงนำยังเป็นพระเอกสุดหล่อคนเดิมของพวกเขาอยู่โล่งอกไปตาม ๆ กัน

          ซึ่งนอกจากความคืบหน้าเรื่องการถ่ายทำแล้ว ก็ยังมีรายงานเรื่องดารานำแสดงคนอื่นอีกมากมายที่จะมาแสดงในภาคนี้ เช่น วิล ยุน ลี (Will Yun Lee) ที่จะมารับบท เคนนุอิจิโระ ฮาราดะ (Kenuichio Harada) หรือ Silver Samurai ตัวร้ายของเรื่อง และ ฮิโรยูกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada) ผู้เคยฝากผลงานมาแล้วในเรื่อง Lost และ Rush Hour 3 จะรับบท ชินเกน ฮาราดะ (Shingen Harada) หัวหน้ากลุ่มยาชิดะและพวกยากุซ่า นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงคนอื่น ๆ อาทิ ฮัล ยามาโนะอุจิ (Hal Yamanouchi) และ ไบรอัน ที (Brian Tee) ร่วมแสดงอีกด้วย

          ทั้งนี้ ถ้าใครสนใจอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้อีก ก็ตามอัพเดทข่าวกันให้ดีผ่านทางกระปุกดอทคอมระหว่างรอภาพยนตร์เข้าฉายในวัน ที่ 26 กรกฎาคมปีหน้าด้วยนะคะ

นางยวน-เกาะเต่า

 ทริปนี้ซื้อทัวร์คะ ไม่ได้แบกเป้ไปเอง เพราะคำนวณค่าเดินทางและที่พักแล้ว ไปกับทัวร์ราคาถูกแล้วคะ

ซื้อทัวร์ไปกับลมพระยาคะ ที่เลือกลมพระยาคือเขามีทุกอย่างให้เราพร้อม รถ เรือ ที่พัก ไม่ต้องไปตระเวนหากันให้เมื่อยตุ่ม อันนี้เราเลือกทริปนอน นางยวนหนึ่งคืนเกาะเต่าหนึ่งคืน
เริ่มเิดินทางด้วยแท๊กซี่ o_O อิอิ คือไปรอขึ้นรถแถวๆ ข้าวสารคะ แล้วด้วยความกลัวตกรถ ก็ไปก่อนเวลามาก เลยไปเดินเล่นก่อน สังเกตจากท้องฟ้านะยังไม่มืดสนิทเลย






ถึงท่าเรือตอนเช้ามืดคะ ประมาณตีห้า ก็นั่งรอนอนรอเรือจนพระอาทิตย์โผล่มาทักทาย ^^ แสงแรกของวัน...


พอเรือมาก็ต้องเดินอีสะพานที่เห็นภาพนี่แหละ ไม่แน่ใจว่ายาวแค่ไหน แต่เดินตอนเช้าๆ ก็ไหวอยู่นะ ไม่ร้อนมาก^^

ใช้เวลาบนเรือ 2 ชั่วโมงมั้ง(จำไม่ได้แล้วอ่ะ)










ถึงนางยวนแล้วจ้า แม้จะมีนั่งท่องเที่ยวมากมายบนเรือแต่มีคนขึ้นที่นางยวนไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นคนไทย

ลงจากเรือก็จะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำ สำหรับคนที่พักเกาะเต่าแต่ซื้อทัวร์ดำน้ำวันแรกก็ต้องขนสัมภาระมาขึ้นที่นางยวนเพื่อเตรียมตัวดำน้ำเลย

ส่วนเราก็ต้องขึ้นอยู่แล้วเพราะพักที่นี่^^

เสียดายนะไม่มีภาพตอนดำน้ำ ที่นี่ปะการังยังดีอยู่ พวกฝรั่งนี่ดำกันไม่ใส่ชูชีพเลย ไกด์บอกว่าน้ำลึกอย่างน้อยสี่เมตร คนไทยเราก็ใส่ชูชีพลอยดูอยู่เหนือน้ำ แต่พี่ฝรั่งเขานอกจากไม่เอาชูชีพแล้ว ยังดำลงไปดูอยู่ใกล้ชิดเลย ...ว่ายน้ำเก่งจริงๆ...



กลับมาถึงที่พัก ประมาณเที่ยง -บ่าย ทานอาหารกลางวันที่จัดไว้ให้ เข้าที่พัก ก็สลบไสล กันเลยทีเดียว

ที่พักบนนางยวนก็จะแอบซ่อนอยู่ตรงไหล่เขา ดูไกลๆ จะเห็นแต่ต้นไม้นั่นแหละ เลยไม่รู้จะถ่ายรูปยังไงให้ดูสวย (แบบความสามารถต่ำอ่ะ --')

ทะเลใกล้ๆ ที่พักใสมากก สามารถลงเล่นได้ตามสบายใจ

เกาะนางยวน เป็นหมู่เกาะเล็กๆ สามเกาะ คือเกาะที่พัก reception และจุดชมวิว จะมีภาพบังคับที่ต้องดั้นด้นขึ้นไปเก็บภาพกัน เราชอบคุณฝรั่งสองคนนี้มากกว่า อายุก็เยอะกันแล้วยังสามารถจะปีน คือจะบอกว่า ทางเดินขึ้นนะมันไม่ได้สบายอะไรนัก ต้องปีนหินขึ้นมา

มีเครื่องเล่นน่าสนใจ คือด้วยความเป็นหมู่เกาะเล็กๆ เนียะ เขาเลย มีเครื่องโหนสลิงจากเกาะ ตรงกลาง ที่เป็น reception โรยตัวข้ามไปฝั่งที่เป็นที่พักด้วย แต่ราคาแพงไปหน่อย อดเล่น --'



เช้าวันที่สองแล้วจ้า

ซูมชายหาดมาให้ดูกันชัดๆ มันไม่ใช่แค่ทรายนะ แต่มันเป็นทรายปนซากปะการัง ฉะนั้นเดินเท้าเปล่าคงไม่ดีแน่^^











เรือที่มารับเราไปเกาะเต่าคะ
คือมันก็เป็นเรือที่มาส่งเราเมื่อวานนั่นแหละ เขาจะมาจอดที่นางยวน ที่แรก แล้วไปส่งต่อที่เกาะเต่า แล้วต่อไปพะงันอีกที

เรือลำใหญ่ดูมั่นคงดี มีขนมปังเล็กน้อยสำหรับอาหารเช้า แต่คนเยอะมาก อย่าลุกจากที่นั่งนะ คุณจะเสียม้าทันที

อยากจะคอมเม้นท์หน่อยว่า จริงๆแล้วเขาน่าจะเพิ่มเที่ยวเรือซักหน่อย ไม่น่าใช้เรือที่วิ่งยาวๆ ถึงสมุยแล้วให้คนที่จะขึ้น่ข้ามเกาะสั้นๆ ขึ้นด้วย คนเลยเต็มไปหมด ตั้งแต่ผู้โดยสาร จากชุมพรอยากจะไป เกาะเต่า เกาะ พะงัน หรือสมุยปลายทาง ขึ้นลำเดียวกันหมด แออัดมากๆ โดยเฉพาะขากลับ จากเต่ากลับชุมพร ขึ้นไปที่นั่งหมดแล้ว เพราะเรือวิ่งมาตั้งแต่ สมุย พะงัน บางคนต้องนั่งพื้นกันเลย

ถึงเกาะเต่าแล้ว แบบว่า โอ้วม้ายกอด ยังกับพัทยาถนนแคบเล็กและเต็มไปด้วยฝรั่ง !!


หลังจากเข้าที่พักเราก็ออกเช่ามอเตอร์ไซด์ และบิดไปตามจุดชมวิวต่างๆ ซึ่งยากลำบากจริงๆ คือเราพลาดที่ ถามเจ้าหน้าที่ โรงแรม เรื่องมอเตอร์ไซด์ เขาก็ติดต่อให้ แต่มอไซต์ไม่ดีเลย พลาดมากจริงๆ เดินไปหาเช่าเองจะดีที่สุด (เคืองพนักงานโรงแรมมาก-"-แต่ทำอะไรไม่ได้)


ก็เลยได้จุดชมวิวมาไม่มาก

ที่ควรไปก็น่าจะเป็น ไปสักการะ พระพรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 

และที่เกาะเต่าก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายจุดเพราะค่อนข้างเป็นป่าอยู่มาก ฉะนั้นก็อย่าไปทำอะไรที่เป็นการหลบหลู่ (ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่)

อย่างตรงโขดหินที่เราไปถ่ายรูปเนียะก็เป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง จำชื่อพี่เจ้าของที่ไม่ได้แล้ว เห็นว่า ตรงนี้ก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหมือนกัน

จุดชมวิวที่เกาะเต่าเนียะมีข้อเสียอยู่หลายอย่างควรให้รัฐมาจัดการอย่างด่วน คืออย่างเช่นจุดที่เราถ่ายรูปมาเป็นที่เอกชน เจ้าของก็ไม่ค่อยมีเงินหรอกก็ค่อยๆ ทำถนนไปเป็นช่วงๆ เท่าที่พอจะำทำได้ และทำร้านอาหารไว้ที่จุดชมวิว คือมันก็ดีหรอก แต่..มันถูกบังคับกลายๆ ให้เข้าไปทานอาหารถึงจะได้ชมวิว (วิวตรงจุดนี้ดีจริงๆ ยังไงใครได้ไปก็อุดหนุนพี่เขาด้วยนะ^^)
ที่ส่วนใหญ่มักเป็นที่เอกชน ต่างคนต่างมีจุดชมวิวเด็ดๆ ในที่ของตัวเอง ก็จัดการ ทำเป็นโรงแรมบ้าง เป็นร้านอาหารบ้าง ซึ่งมันบังวิว คือบางทีนั่งท่องเที่ยวอยากมาถ่ายรูป มานั่งเล่นไม่ได้ตั้งใจมาทานอาหาร บางจุดเป็นรีสอร์ทแต่ก็อนุญาตให้เข้าไปชมวิวได้ แต่มันก็รู้สึกกดดันแปลกๆ มันจะมีพนักงานรีสอร์ทเดินไปมา หรือบางจุดเป็นร้านอาหาร เราก็จะรู้สึกแปลกๆ ที่เข้าไปฟรีๆ แต่จะซื้อก็ไม่ได้อยากกินอ่ะ
จริงๆแล้วทางรัฐน่าจะ จัดเป็นจุดชมวิวธรรมดา แล้วมีร้านของกินหรือของฝากอยู่ข้างทาง อาจสร้างรายได้ให้กับเจ้าของที่ได้มากกว่า รึเปล่า ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสบายๆมากกว่า

ทำ ให้นึกถึงเวลาไปเที่ยว อช. ที่เป็นเขา เขามีร้านอาหารก็จริง มีแคมป์ปิง แต่เหล่านี้ก็ไม่ได้ไปบดบังทัศนียภาพ ผู้ึคนมากมายได้ชมวิวร่วมกัน รู้สึกดีมากกว่า




มะพร้าวต้นนี้ เขาก็ว่าเป็นมุมบังคับเหมือนกัน ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปมาคล้ายจะไปไม่ถึงเกาะเต่า --'

มีข้อเสียอีกอย่างที่ชายหาด คือหาทางเข้าชายหาดไม่เจอ o_O มัีนเต็มไปด้วยรีสอร์ท ร้านค้า บลาๆๆ ทุกคนพยายามจะยึดเอาชายหาดเป็นของตัวเองและ สร้างอาคารเข้าใกล้ทะเลจนเหลือหาดจริงๆ น้อยมาก 


จุดชมวิวตรงนี้ต้องมุดโขดหินเข้าไป แต่ไม่น่าเชื่อมีรถวิ่งเข้าไปด้วย แถมในนั้นเป็นรีสอร์ท ต้องเข้าไปในรีสอร์ทถึงจะชมวิวได้ มองจากจุดนี้จะเห็นเกาะนางยวนใกล้มั๊กๆ




อาหารกลางวันมื้อนี้จัดเองคะ คุณพี่ชายบอกว่า มีรีวิว ว่าพิซซ่าร้านนี้อร่อย ก็เลยมาจัดซักหน่อย

อิตาเลี่ยนมาก บางกรอบ ไม่ใช่ประเภทหนานุ่มหน้าเยอะแบบที่เคยชิน แต่ก็อร่อยไปอีกแบบคะ
















หลังอาหารกลางวัน ก็พักผ่อน
ตอนเย็นก็มีไปจุดชมวิวอื่นๆบ้างแถวๆ ที่ัพัก แต่ไม่มีภาพสวยๆมาอวดอ่ะจ้า

ตกกลางคืน คืนนี้ดินเนอร์ใต้แสงเทียน^^ ร้านนี้เวิร์คมากคะ อยู่ใกล้ที่พัก และวิวดีมองเห็นอีกด้านของเกาะ ในภาพนี่พยายามถ่ายรูปพระจันทร์คะ คืนนี้พระจันทร์สวยมั๊กๆ

ต้องขออภัยถ้าใครหลงเข้ามาอ่านอยากหาข้อมูลเรื่องร้านอาหาร หรือที่พัก หรือจุดชมวิวต่างๆ คือเราไปนานแล้ว ลืมชื่อไปแล้วอ่ะ ขออภัยจริงๆ


เช้าวันที่สาม มีภาพเต่าเกาะมาฝาก ^^

สระว่ายน้ำนี่ไม่ได้ลงไปเล่นเลยคะ มันเล็กมากแล้วก็มีนั่งท่องเที่ยวลงไปเล่นหลายคนไม่มีที่สำหรับเรา --' (ในภาพนี่ตอนเช้าเลยไม่มีคนคะ)


หาดหน้าที่พัก

หาดหน้าที่พัก
ชอบที่พักที่นี่คะ ไม่พลุกพล่าน ตอนกลางคืนมีร้านอาหารริมหาดด้วย และชายหาดก็เยอะดี  แต่ทะเลฝั่งนี้ไม่น่าเล่นเท่านางยวนคะ

 เดินทางกลับแล้วจ้า ขากลับนี่ถ่ายรูปได้สวยกว่าขาไปเพราะ เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว

ฝรั่งนี่เขาเต็มที่กับการท่องเที่ยวมากนะคะ ดูซิลูกตัวเล็กก็ยังหอบมาด้วย

ถึงฝั่งชุมพรก็รอรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ คะ ผู้คนมากมายอลังการเหมือนเดิม อยากจะแนะำนำนิดหน่อยคะสำหรับการเดินทางมาถึงชุมพร ถ้าใครลุยๆ หน่อยก็นั่งรถของลมพระยามาก็ได้คะ เพราะรถของลมพระยาถ้าเทียบกับ รถทัวร์ปกติก็ยังไม่ถือว่าเป็น วีไอพีคะ แล้วผู้โดยสารก็จะมีแต่ฝรั่งเราอาจไม่ชินเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะเดินทางแบบอื่นแล้วค่อยมาต่อเรือของลมพระยาน่าจะดีกว่า เพราะจากกทม.ถึงชุมพรก็ หลายชั่วโมงอยู่ มาแบบสบายๆ หน่อยก็น่าจะดี^^


จบทริป....


ขออภัยด้วยถ้าภาพไม่สวยและข้อมูลไม่ครบ^^