Stonehearst Asylum: เรื่องนี้มีแต่คนบ้า


วันนี้มาพูดถึงคนบ้ากันดีกว่า ไหนๆอากาศก็ร้อนจนจะเป็นบ้านอยู่แล้ว ><

ตอนแรกเห็นเรื่องนี้ไม่ได้เห็นตัวอย่างมาก่อน ก็กลัวๆกล้าๆจะดูนะ  แต่หลังจากได้ดูบอกเลยว่าชอบนะ หนังไม่ได้ดูรุนแรง หรือมีคนโรคจิตถือมีดปังตอไล่ฆ่าใคร

หนังเรื่องนี้พูดถึงภาวะทางจิต บอกเล่าวิธีการรักษาและอาการของโรค สองแนวทางที่ตรงข้ามกัน หมอที่มีภาวะจิตปกติแต่รักษาด้วยวิธีรุนแรง กับหมอที่มีภาวะจิตไม่ปกติแต่พยายามใช้ความเข้าใจคนไข้มากกว่าที่จะทำร้าย หนังเล่าเรื่องได้ดี คนดีๆที่มีความบ้า และคนบ้าที่มีความคิดดีๆ หนังเหมือนจะตั้งใจให้เราสับสนเล็กๆ ว่าใครกันแน่ที่บ้า หรือไม่ได้บ้า และจบหักมุมนิดๆแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

บทสนทนาในตอนจบสามารถสรุปเรื่องราวของหนังได้ดี เป็นบทสนทนาสั้นๆ ที่กินใจมากมาย


หมอ                : เค้า ป่วยเกินจะเยียวยาแล้ว...
ผู้ดูแลในรพ.บ้า : ชั้นไม่เชื่อว่า เค้าเกินจะเยียวยา เค้าพบทางรักษาแล้ว
หมอ                : ใช้ยาอะไร?
ผู้ดูแลในรพ.บ้า : คน ค่ะ ....      

                         (จริงๆแล้วมันก็เหมือนเป็นความใส่ใจ ความเข้าใจผู้ป่วย ไม่ใช่เอาแต่สั่งยาๆ :ผู้เขียน)

http://movie.sanook.com/45629/
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Stonehearst Asylum บอกเล่าเรื่องราวของ เอ็ดเวิร์ด นิวเกท(จิม สเตอร์เจส) นักเรียนหมอจบใหม่จากฮาร์วาร์ดที่เดินทางมาทำงานในสถานที่แห่งนี้ แต่สถานจิตเวทแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยความผิดปกติบางอย่างที่เอ็ดเวิร์ดเองก็สัมผัสได้ตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าที่มีแต่บุคคลที่มีท่าทีประหลาดออกมาต้อนรับด้วย “อาการพิลึกพิลั่น”  
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะดูไม่ค่อยไว้วางใจกับสถานที่แห่งนี้ก็ตาม การได้พบกับหญิงงามอย่าง เอลิซ่า (เคท เบคคินเซล) คนไข้ของสถาบันจิตเวชสโตนเฮิร์ส ก็เหมือนจะทำให้เขาอยากจะช่วยเหลือเธอ แต่แล้วในกลางดึกของคืนวันหนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงลึกลับมาจากด้านล่างของตึก เมื่อลงไปสำรวจดูเขาก็พบกับคุกใต้ดินที่จองจำ เบนจามิน ซอลท์(ไมเคิล เคน) ชายที่อ้างตัวว่าเป็นผ.อ.ประจำสถานจิตเวทแห่งนี้ก่อนที่เขาจะโดนคนไข้โรคจิตอย่าง ไซลาส แลมป์(เบน คิงสลีย์) ยึดอำนาจไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เอ็ดเวิร์ทคือความหวังเดียวในการช่วยเหลือเหล่าหมอและพยาบาลรวมไปถึงอลิซ่าอีกหนึ่งคนด้วย
ตัวหนังดัดแปลงมาจากนวนิยายของเอ็ดการ์ อัลเลน โพ ในชุด The System of Doctor Tarr and Professor Fether ซึ่งตัวหนังนั้นในบรรยากาศย้อนยุคแบบวิตอเรียนผสมโกธิค ทำให้บรรยากาศตลอดการดูหนังเรื่องนี้มีความขมุกขมัว ยิ่งไปกว่านั้นการปกปิดอำพรางรายละเอียดของตัวละครทุกตัวในเรื่องจึงทำให้คนดูรู้สึกสงสัยใคร่รู้และอยากจะทำความรู้จักกับตัวละครกลุ่มนี้มากขึ้น ว่าตกลงแล้วเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่ในสถานที่แห่งนี้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น