รีวิว/สปอยล์ : Joker 2019

โจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นนี้ดูตัวอย่างก็เดาได้ไม่ยากว่ามันไม่ใช่หนังฮีโร่ และถ้าใครเข้าใจสังคมในเรื่องแบทแมนจะรู้ว่าตัวละครแทบทุกตัวมีความป่วยจิตกันทั้งนั้น (ที่ปกติน่าจะเป็นกอร์ดอนกับพ่อบ้าน) ก่อนไปดูมีกระแสในโซเชียลว่าดูแลเวระวังจะซึมเศร้า เราแม้จะมีความตั้งใจแต่ก็แอบลังเล
แต่พอไปดูมาแล้วงงจ้า ว่าจะซึมเศร้าได้ยังไง
หนังสไตล์จิตวิทยาก็เป็นประมาณนี้แหละ หนังเล่าเรื่องราวในชีวิต อาเธอร์ ก่อนจะมาบรรลุเป็นโจ๊กเกอร์
อาเธอร์อายุ 30 ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ในย่านเสื่อมโทรม มีความฝันที่น่าหัวเราะมาตั้งแต่เด็กคืออยากเป็นนักแสดงตลก (มีเส้นบางขวางอยู่นะระหว่างการเป็นนักแสดง กับตัวตลกในชีวิตจริง) อาเธอร์มีความเจ็บป่วยทางกาย ลักษณะหลังคด และป่วยทางจิต เวลามีความตื่นเต้นกดดันเขาจะมีอาการหัวเราะไม่หยุด มีอาชีพเป็นตัวตลกและมักจะโดนแกล้ง เวลากลับบ้านแม่ของเขาก็มักจะพร่ำเพ้อว่าเคยทำงานกับ โทมัส เวย์น ผู้แสนดีและกำลังจะเป็นนายกเทศมนตรี ชีวิตที่อาภัพและความกดดัน ทำให้วันหนึ่งเมื่อถูกยั่วยุ อาเธอร์ฆ่าคนตาย แต่เขากลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ข่าวการฆ่าคนโดนตัวตลกโด่งดัง ไปพร้อมๆกับ การตายของแม่ การรู้ความจริงเกี่ยวตัวเอง การเกิดภาพหลอน และจังหวะที่เหมือนฟ้าโปรด เขาได้ไปออกรายการทีวีชื่อดังที่เขาติดตาม ทำให้เขาเป็นที่สนใจ มีจุดยืนในสังคม แต่อาเธอร์กลับฆ่าพิธีกร ออกทีวี อาเธอร์ถูกจับ เป็นวันเดียวกันกับที่มีการจราจล โทมัส เวย์น ถูกฆ่าในตรอก (ฉากที่ต้องมี เป็นปมในใจบรู๊ส เวย์น)
คนในกลุ่มจราจลเห็นอาเธอร์ หรือ โจ๊กเกอร์ เป็นฮีโร่

หนังเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงสภาพสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำ กดดัน บิดเบี้ยว ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้คน หนังไม่ได้บีบคั้น กดดันคนดู แต่ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกอะไรต่อตัวละครหลักมากนัก ถ้าถามว่าจะอินจนส่งผลให้ซึมเศร้าได้ไหม ส่วนตัวมองว่าไม่ได้ เหตุผลหนึ่งคือเรารู้อยู่แล้วว่าโจ๊กเกอร์ มีจิตใจไม่ปกติ และการปูแบคกราวน์ตัวละครมันไม่ลึกพอ แต่โดยรวมๆ ถือว่าเป็นหนังดีนะ ไปดูได้😁  8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น