กำเนิดโดราเอม่อน
วันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 ณ โรงงานผลิตหุ่นยนต์ที่แสนจะทันสมัย
ผู้ก่อการร้าย 2 คนได้หลบหนีการจับกุมของตำรวจ โดยใช้ยานแล่นผ่านเข้ามาในเขตโรงงานผลิตของเล่น ขณะคนร้ายได้พยายามหลบหนีการจับกุมโดยทำให้ยานล่องหนไปนั้น ก็ได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น เป็นเหตุให้กระแสไฟพุ่งตรงเข้าสู่หุ่นยนต์แมวสีเหลืองตัวหนึ่ง
หุ่นยนต์ตัวนั้นเกิดการช๊อตขึ้น และหลุดออกจากวงโคจรการผลิต ร่วงลงบนถังขยะ
ขณะที่ขยะถูกโกยลงสู่เตาเผา หุ่นยนต์แมวสีเหลืองก็กลับมีชีวิต และตกใจรีบกระโจนขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ "ตายแล้ว ตายแล้ว!" หุ่นยนต์แมวร้องลั่น ทันใดนั้นมีหางยาวสีชมพูสดใส มาพันเกี่ยวไว้ได้ทัน
หุ่นยนต์แมวสีเหลือง "โดราเอม่อน" ตกหลุมรัก หุ่นยนต์แมวสาวสีชมพู "โดราเอโกะ" ทันทีที่ได้เห็น
โดราเอโกะดีใจที่ได้พบโดราเอม่อน เธอจับมือโดราเอม่อนพร้อมแนะนำตัวเองว่าเป็นหุ่นระบำ ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
โดราเอโกะ : "พวกเราเป็นหุ่นยนต์แมวเหมือนกัน สามารถออกรับใช้สังคมได้บ้างนะ ขยันๆหน่อยนะ" โดราเอม่อน : เขินแก้มแดงพร้อมรับปากว่า "ได้ ได้จ้ะ"แล้วโดราเอโกะก็จากไป
จากนั้น โดราเอม่อนเข้ารับการอบรมเพื่อเป็นหุ่นยนต์ชั้นเลิศ และต้องผ่านการฝึกฝนร่วมกับหุ่นยนต์ที่ผลิตในรุ่นเดียวกันหลายขั้นตอน แต่โดราเอม่อนก็ทำได้ไม่ดีนัก
โดราเอม่อน ถูกอาจารย์ใหญ่ผู้ผลิตหุ่นยนต์เรียกพบ เค้าตำหนิที่โดราเอม่อนไม่สามารถ ปฏิบัติการทดสอบได้ดีเหมือนกับเพื่อนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ซึ่งเค้าสันนิษฐานว่าเกิดจาก ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งในการผลิตที่ผิดพลาด โดราเอม่อนจึงถูกส่งไปเรียนซ้ำชั้น และที่นี่เอง...ที่โดราเอม่อน ได้พบกับโดราเอโกะอีกครั้งหนึ่ง (ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ)
วันฉลองการเรียนจบของเหล่าหุ่นยนต์ก็ใกล้จะมาถึง โดราเอม่อนนั่งกลุ้มใจกับผลคะแนนสอบ ที่แสนจะน้อยนิดของตนเอง
แต่โดราเอม่อน ก็ยังมีโดราเอโกะเฝ้าคอยปลอบและให้กำลังใจเสมอมา
โดราเอโกะ มีความสามารถในการหยิบสิ่งของในอดีตจากกระเป๋าหน้าท้องได้ เธอจึงหยิบแป้งทอดจากศตวรรษที่ 20 มาให้โดราเอม่อนลอง เพื่อจะได้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น เมื่อโดราเอม่อนได้ชิมแป้งทอดนั้น ก็ติดใจในรสชาติอย่างมาก รีบหยิบแป้งทอดออกมาจากกระเป๋าของโดราเอโกะนับชิ้นไม่ถ้วน ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน (คลั่งไคล้แป้งทอดเพราะแบบนี้ี่เอง ^^ ผู้เขียน)
ณ งาน Robot Audition ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว รายการนี้ได้ถ่ายทอดไปยังสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ หากบ้านใดต้องการเป็นเจ้าของหุ่นยนต์ตัวไหน ก็สามารถกดปุ่ม OK เพื่อสั่งซื้อหุ่นยนต์ตัวนั้นได้ทันที
หุ่นยนต์แต่ละตัวทยอยกันแสดงความสามารถด้านต่างๆ ซึ่งทุกตัวก็ได้รับการกดปุ่มคัดเลือกไปเรียบร้อยแล้ว โดราเอม่อนเป็นหุ่นยนต์ที่จะขึ้นแสดงเป็นลำดับสุดท้าย โดยได้รับการประกาศชื่อว่า... "หุ่นยนต์ดูแลเด็ก โดราเอม่อน"แต่ด้วยความตื่นเต้น การแสดงของโดราเอม่อน จึงมีแต่ข้อผิดพลาด
แสงไฟของเวทีค่อยหรี่ลง ตามเสียงประกาศของโฆษก ที่กล่าวว่า "เวลาใกล้หมดลงแล้วล่ะค่ะ" ครั้งนี้ไม่มีใครกดสัญญาณเลยนะคะ งั้นการแสดงของมนุษย์หุ่นยนต์ในครั้งนี้ ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ค่ะ
โดราเอม่อนผิดหวังอย่างมากที่ไม่มีใครเลือกตน
แต่...ก่อนที่แสงไฟจะมืดสนิทไป สัญญาณไฟ OK ก็ได้ติดขึ้น มีทารกคนหนึ่งกดไฟด้วยตนเอง สร้างความดีใจให้กับโดราเอม่อนยิ่งนัก
เมื่อโดราเอม่อนได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนั้น จึงได้รู้ว่าที่เค้าได้มาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าเป็นการกดปุ่มผิด แต่พ่อและแม่ของเด็กก็ยินยอมให้โดราเอม่อนอยู่ต่อไป เพราะไม่สามารถส่งคืนได้ โดยโดราเอม่อนมีหน้าที่เก็บกวาด ทำความสะอาดบ้านเพิ่มเติมจากการดูแลทารกน้อยด้วย (แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอมอนได้ถูกนำไปขายทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอมอนไปไว้ที่บ้าน ข้อมุล wikipedia.org )
โดราเอม่อนดูแลเด็กน้อยเป็นอย่างดี กิน นอน และเที่ยวเล่นด้วยกันตลอดเวลา จนเด็กน้อยคนนั้นเริ่มโตขึ้น
วันหนึ่งเด็กชายคนนั้น ได้ใช้ดินเหนียวปั้นโดราเอม่อนขึ้นมา แต่หูของรูปปั้นไม่ค่อยเหมือนหูของโดราเอม่อนตัวจริงเท่าใดนัก จึงเปิดลิ้นชักหยิบหุ่นยนต์หนูขึ้นมา พร้อมทั้งบอกว่าให้ช่วยกัดหูโดราเอม่อน ให้รูปทรงเหมือนกับหูของเจ้าหุ่นยนต์หนูหน่อย
เจ้าหนูหุ่นยนต์รับคำสั่งทันที แต่ด้วยความเข้าใจผิด จึงรีบวิ่งตรงไปกัดหูโดราเอม่อนตัวจริง ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ จนหูแหว่งไป (เกิดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่ ข้อมุล wikipedia.org )
โดราเอม่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ขณะหุ่นยนต์แพทย์กำลังทำการรักษา ได้มีแมลงวันบินมาเกาะที่จมูกโดราเอม่อน โดราเอม่อนจึงได้จามขึ้น ทำให้แพทย์ตกใจกดปุ่มรักษาผิด ทำให้เครื่องมือของแพทย์ได้ออกมาตัดหูโดราเอม่อนทั้งสองข้างจนเกลี้ยง
เมื่อโดราเอโกะ รู้ข่าวว่าโดราเอม่อนป่วยก็รีบมาเยี่ยม ทันทีที่เห็นโดราเอม่อนหัวกลมไม่มีหู เธอก็ขำจนตัวงอ ทำให้โดราเอม่อนเสียใจเป็นอย่างมาก
โดราเอม่อนเฝ้าถอนใจ เค้าหนักใจในสภาพที่ไม่มีหูของตน แต่เพื่อเสริมกำลังใจให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง จึงหยิบยาเสริมกำลังใจขึ้นมาดื่ม
แต่แทนที่โดราเอม่อนจะมีกำลังใจที่กล้าแกร่งขึ้น กลับกลายเป็นนั่งร้องไห้ฟูมฟายโดยหยุดไม่ได้
โดเรมี่ออกตามหาพี่ชายจนเจอ โดราเอม่อนนั่งซึมอยู่ริมหาด เมื่อได้พูดคุยกันโดเรมี่จึงได้รู้ว่า โดราเอม่อนร้องไห้มาเป็นเวลา 3 วันแล้ว ตัวเลยกลายเป็นสีฟ้า โดเรมี่สอบถามว่าโดราเอม่อนใช้เครื่องมืออะไร ก็ได้รับคำตอบว่าโดราเอม่อนได้ดื่มยาเสริมกำลังใจเข้าไป แต่เมื่อโดเรมี่เหลือบไปเห็นขวดยาที่ตกอยู่ ก็ได้บอกโดราเอม่อนว่า ยาที่โดราเอม่อนดื่มเข้าไปนั้น คือยาโศกเศร้าต่างหาก
โดราเอม่อนตกใจมาก แต่เมื่อโดเรมี่บอกว่าชิมาซึตะ เด็กชายที่โดราเอม่อนดูแล กำลังตามหาโดราเอม่อนอยู่ และกำลังหลงทางด้วย โดราเอม่อนจึงรีบหยิบยาเสริมกำลังใจขึ้นมาดื่มทันที แต่ปรากฏว่าดันหยิบยาระเบิดทันทีขึ้นมาดื่มเสียอีก -_-'ขณะที่ชิมาซึตะนั่งซึมคิดถึงโดราเอม่อน ยานของ 2 โจรร้ายได้ผ่านมาพบพอดี จึงจับชิมาซึตะไว้เป็นตัวประกัน
โดราเอม่อนรีบวิ่งมาช่วยชิมาซึตะ แต่ด้วยความบังเอิญโดราเอม่อนบินขึ้นไปอุดท่อไอเสียของยานของโจร ทำให้ยานขัดข้องร่วงตกลงไปค้างอยู่ที่เตาเผาขยะ
และแล้ว 2 โจรนั่นจึงถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้ทันควัน ชิมาซึตะดีมากที่ได้พบกับโดราเอม่อนอีกครั้ง แต่โดราเอม่อนก็เอ่ยถามชิมาซึตะด้วยความประหลาดใจว่า "ฉันเปลี่ยนไปขนาดนี้นายยังจำได้อีกเหรอเนี่ย" ชิมาซึตะตอบกลับทันทีว่า "พูดเป็นเล่นไป นายตอนนี้หล่อกว่าเมื่อก่อนซะอีก" แล้วทั้งสองก็โผเข้ากอดกันแน่นด้วยความดีใจ โดราเอม่อนนึกขึ้นได้ รีบควานหากระเป๋าวิเศษ แต่ไม่พบเพราะได้ทำหายระหว่างทาง
โดราเอโกะนั่งยานมาหาโดราเอม่อน เมื่อทั้งสองได้พบกันโดราเอโกะก็กล่าวขอโทษ ที่หัวเราะเยาะโดราเอม่อนในวันนั้น ตอนนี้โดราเอโกะเห็นว่าโดราเอม่อนสีฟ้าไม่มีหูก็น่ารักดี ทำให้โดราเอม่อนดีใจเป็นอย่างมาก
เทศกาลวันคริสมาสต์ได้เริ่มขึ้นแล้ว ชิมาซึตะได้มอบตุ๊กตาโดราเอม่อนสีฟ้าน่ารัก ให้โดราเอม่อนเพื่อเป็นของขวัญ แต่โดราเอม่อนไม่รู้จะมอบสิ่งใด ชิมาซึตะจึงกล่าวว่า
"ฉันไม่ต้องการของขวัญอะไรหรอก ขอแต่โดราเอม่อนอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดไป ก็เป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดแล้ว"
งานเลี้ยงฉลองคริสมาสต์ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน โดยมีเหล่ามินิโดราที่กรมตำรวจจัดให้สร้าง เป็นที่ระลึกพิเศษร่วมกินเค้กด้วย
ในคืนนั้นอาจารย์ผู้ผลิตโดราเอม่อนได้มอบของขวัญเป็นกระเป๋าวิเศษใบใหม่ให้กับโดราเอม่อน
จากนั้นชิมาบิตะก็อยู่อย่างมีความสุข ดังนั้นทำให้โดราเอม่อนต้องเดินทางกลับไปเปลี่ยนแปลงประวัติ ของบรรพบุรุษของชิมาบิตะ นั่นก็คือโนบิตะ ทำให้เกิดการเดินทางมากมาย เพื่อให้ชิมาบิตะ ได้อยู่อย่างมีความสุข.. และนี่คือของขวัญวันคริสมาสต์ที่โดราเอม่อนมอบให้ ชิมาบิตะนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น