battleship ยุทธการเรือรบพิฆาต

เป็นภาพยนตร์ที่ทั้งอยากและไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์
ในส่วนหนึ่งคือถ้าไม่คิดอะไรเลยหนังเรื่องนี้ก็ดูพอสนุกได้ไม่เสียดายเงิน แต่ถ้าคิดอะไรอยู่บ้าง ก็อาจรู้สึกได้ว่ามัน ยังไงยังไงอยู่



ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้น่าดูไม่น้อยเลย ใจนึงก็ไม่ได้คาดหวังอะไรนักกับเรื่องราว เพราะการอ้างอิงผลงานมาจากเรื่อง transformer (ต้องยอมรับละว่าเรื่องความมันส์เขาไม่เป็นรองใคร แต่เนื้อเรื่องมัน..สับสนจริงจริ๊ง) มีความคาดหวังเล็กๆ ว่าคงจะสู้กันหูดับตับไหม้ หรือไม่ก็คงสนุกในระดับ หนังเรื่อง 

Battle Los Angeles (2011) สไตล์หนังทหาร สู้เพื่อมวลมนุษยชาติ อะไรแบบนั้น 

หนังสร้างความผิดหวังเล็กๆ ไว้ในหลายๆจุด เช่นว่า ไอ้เจ้ายานอวกาศต่างดาวมันมาเพื่อ? แล้วยานสื่อสารมันเสียก็เลยต้องติดต่อกลับหาดาวแม่เพื่อ? เจ้าต่างดาวมันไม่ฆ่าคน แต่ทำลายทางด่วนเพื่อ? เจ้ายานต่างดาวนี่ก็ตลกเอาแต่กระโดดเป็นกบอยู่นั่น บินมาเป็นปีแสงเพื่อมากระโดดเล่นในทะเลบนโลก? แล้วพอจะพังก็พังกันง่ายๆซะอย่างนั้นแหละ แล้วก็จบเรื่อง โลกสงบสุข --'
การเดินเรื่องของหนังทำให้นึกถึงภาพยนตร์ดัง amagedon ในจุดที่ว่า พระเอกดันไปพบรักกับลูกสาวผู้บังคับบัญชา แต่ในส่วนของความซาบซึ้งประทับใจ พูดได้คำเดียวว่า Battleship ยังทำได้ไม่ดีพอ
อีกส่วนหนึ่งที่รู้สึกว่าหนังพลาดอย่างร้ายกาจคือนักแสดง ถ้าไม่นับ คุณพี่เลียม นีสัน คุณพระเอก คุณนางเอก ถือว่ายังขาดบุคลิกหรือสเน่ห์บางอย่างที่สามารถจะดึงดูดคนดูได้


Michelle Rodriguez จากเรื่อง Battle LA
แต่ที่พอจะรู้สึกดีบ้างคือบทของทหารผิวสี เพศหญิงคนนี้ จังหวะหรือบทบาทของเธอดูจะคล้าย หลายๆบทในหลายๆเรื่องที่ มิเชล โรดริเกซ แสดง ซึ่งเธอคนนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ โรดริเกซเลยนะ
มันก็ตลกดีที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้นึกไปถึงหนังหลายๆ เรื่อง หรือเพราะหนังพยายามจะใส่ดราม่าเข้าไปเพื่อขยายกลุ่มคนดู ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็แล้วแต่สำหรับ 

Battleship ดูได้เพลินๆ อย่าคิดมาก (คล้ายๆจะบอกตัวเอง^^)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น